[ครบชุด] XU11205 สามีเก่าแต่งงาน แต่เมียเก่าหวงก้าง วัดใจ ชาแนล

ZEEKR 7X: พลิกโฉม SUV ไฟฟ้าพรีเมียม ด้วยสมรรถนะเหนือชั้นและการลุยที่คาดไม่ถึงในปี 2025

ในฐานะผู้คร่ำหวอดในวงการยานยนต์ไฟฟ้ามากว่าทศวรรษ ผมได้เห็นวิวัฒนาการอันน่าทึ่งของเทคโนโลยีและตลาด EV ที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว และในปี 2025 นี้ สิ่งที่เรากำลังจะได้สัมผัสคือจุดเปลี่ยนสำคัญอีกครั้ง ที่ไม่เพียงแต่เน้นเรื่องประสิทธิภาพและการขับขี่ที่ไร้มลพิษ แต่ยังรวมถึงประสบการณ์การใช้งานที่ครบครันและเหนือความคาดหมาย ZEEKR 7X คือหนึ่งในดาวเด่นที่พร้อมจะเข้ามาเขย่าบัลลังก์ในตลาด SUV ไฟฟ้าพรีเมียม ของประเทศไทย ด้วยการผสมผสานความหรูหรา เทคโนโลยีล้ำสมัย และสมรรถนะที่พร้อมตอบโจทย์การใช้งานหลากหลายรูปแบบ โดยเฉพาะความสามารถในการ “ลุย” ที่หลายคนอาจไม่คิดว่ารถยนต์ไฟฟ้าจะทำได้ดีขนาดนี้

ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในปี 2025 ไม่ได้มองหาแค่รถที่วิ่งได้ไกลหรือชาร์จเร็วอีกต่อไป ผู้บริโภคต้องการรถที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์ได้อย่างลงตัว มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และมอบประสบการณ์ที่เหนือกว่ารถยนต์สันดาปเดิมๆ ZEEKR 7X ถือเป็นปรากฏการณ์ใหม่ที่ผสานปรัชญาเหล่านี้เข้าไว้ด้วยกันอย่างสมบูรณ์แบบ มันไม่ใช่แค่ รถยนต์ไฟฟ้า ทั่วไป แต่คือยนตรกรรมที่ถูกสร้างมาเพื่อท้าทายทุกขีดจำกัดของการเดินทาง

การเปิดตัวและการวางตำแหน่งในตลาดไทย: ย่างก้าวสำคัญของ ZEEKR ในปี 2025

ZEEKR ประเทศไทย เตรียมสร้างความฮือฮาครั้งใหญ่ด้วยการเปิดตัว ZEEKR 7X อย่างเป็นทางการในวันที่ 15 สิงหาคม 2025 นี้ ซึ่งจะเป็นการนำเข้าแบบ CBU (Complete Built-Up) จากประเทศจีน โดยวางตำแหน่งเป็น SUV ไฟฟ้า 5 ที่นั่ง ที่เหนือกว่าคู่แข่งในหลายมิติ ด้วยราคาที่คาดการณ์ไว้สำหรับรุ่น Long Range RWD อยู่ที่ประมาณ 1,700,000 บาท และรุ่น Performance AWD ไม่เกิน 1,900,000 บาท ซึ่งถือเป็นช่วงราคาที่น่าสนใจอย่างยิ่งในกลุ่ม รถยนต์ไฟฟ้าสมรรถนะสูง ระดับพรีเมียม

สิ่งที่สร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคชาวไทยอย่างมากคือแพ็กเกจการรับประกันที่ ZEEKR ประเทศไทย มอบให้ โดยมาพร้อมการรับประกันคุณภาพตัวรถนานถึง 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร และที่สำคัญกว่านั้นคือ การรับประกันแบตเตอรี่และมอเตอร์ไฟฟ้าอันเป็นหัวใจหลักของรถ EV ยาวนานถึง 8 ปี หรือ 180,000 กิโลเมตร นอกจากนี้ยังมีบริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง นาน 8 ปี หรือ 180,000 กิโลเมตร ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและความพร้อมในการดูแลลูกค้าในระยะยาว ปัจจัยเหล่านี้ล้วนเป็นองค์ประกอบสำคัญในการตัดสินใจเลือกซื้อ รถ EV ในยุคที่ผู้ใช้งานต้องการความสบายใจสูงสุด

มิติแห่งความหรูหราและประโยชน์ใช้สอย: การออกแบบที่ลงตัว

เมื่อแรกเห็น ZEEKR 7X สร้างความประทับใจด้วยรูปลักษณ์ที่สง่างาม ล้ำสมัย และแฝงไว้ซึ่งกลิ่นอายของ SUV ไฟฟ้าหรู การออกแบบภายนอกเน้นความเรียบง่ายแต่ทรงพลัง ด้วยเส้นสายที่โฉบเฉี่ยวและไฟหน้า Stargate Front Light Panel ที่สามารถเปลี่ยนกราฟิกได้หลากหลายรูปแบบ สร้างเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใครบนท้องถนน มิติของตัวรถถูกออกแบบมาอย่างพิถีพิถันเพื่อตอบโจทย์ทั้งความสวยงามและฟังก์ชันการใช้งาน:

ความยาว: 4,787 มิลลิเมตร
ความกว้าง: 1,930 มิลลิเมตร
ความสูง: 1,650 มิลลิเมตร
ระยะฐานล้อ (Wheelbase): 2,900 มิลลิเมตร

ด้วยระยะฐานล้อที่ยาวเกือบ 3 เมตร ทำให้ภายในห้องโดยสารกว้างขวางเป็นพิเศษ มอบพื้นที่เหนือระดับสำหรับผู้โดยสาร 5 คน ในขณะที่ระยะต่ำสุดถึงพื้น (Ground Clearance) ที่ 173 มิลลิเมตร ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดีสำหรับ SUV ไฟฟ้า ที่แม้จะไม่ได้ออกแบบมาเพื่อลุยหนักแบบออฟโรดเต็มตัว แต่ก็ให้ความอุ่นใจในการขับขี่บนเส้นทางขรุขระ หรือการลุยน้ำท่วมขังในระดับหนึ่ง ส่วนความจุของพื้นที่เก็บสัมภาระก็โดดเด่นไม่แพ้กัน ด้วยความจุท้ายรถ 539 ลิตร และสามารถขยายได้ถึง 1,978 ลิตร เมื่อพับเบาะหลังลง มอบความยืดหยุ่นในการขนสัมภาระ ไม่ว่าจะสำหรับการเดินทางไกลหรือกิจกรรมยามว่าง นอกจากนี้ยังมี Frunk หรือที่เก็บสัมภาระด้านหน้าขนาด 66 ลิตร ซึ่งเป็นอีกหนึ่งความสะดวกสบายที่รถ EV มักมีให้ เพื่อเก็บสายชาร์จหรืออุปกรณ์อื่นๆ ได้อย่างเป็นระเบียบ

ขุมพลังและสมรรถนะ: สัมผัสถึงอนาคตแห่งการขับขี่

หัวใจหลักที่ทำให้ ZEEKR 7X เป็นที่น่าจับตามองคือขุมพลังไฟฟ้าที่ได้รับการพัฒนาบน เทคโนโลยี 800V อันล้ำสมัย ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยให้การชาร์จไฟเร็วขึ้น แต่ยังเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบขับเคลื่อนโดยรวม มอบทั้งพละกำลังที่มหาศาลและความประหยัดพลังงานที่ยอดเยี่ยม แบตเตอรี่ Lithium-ion (NMC) ขนาดความจุ 100 kWh คือแหล่งพลังงานหลักที่รับประกันระยะทางวิ่งที่น่าประทับใจ

รุ่น Long Range RWD: ประสิทธิภาพที่สมดุลและระยะทางสูงสุด
สำหรับผู้ที่มองหา รถยนต์ไฟฟ้า ที่เน้นระยะทางวิ่งสูงสุดและประสิทธิภาพที่ตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวัน ZEEKR 7X รุ่น Long Range RWD คือคำตอบที่สมบูรณ์แบบ ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 1 ตัวที่ให้พละกำลังสูงสุด 422 แรงม้า (PS) และแรงบิดสูงสุด 440 นิวตันเมตร ผ่านระบบขับเคลื่อนล้อหลัง (RWD) ซึ่งมอบการขับขี่ที่นุ่มนวล แต่ก็มีอัตราเร่งที่เร้าใจ:

อัตราเร่ง 0-100 km/h: ภายใน 6.0 วินาที
ความเร็วสูงสุด (Top Speed): 210 km/h
ระยะทางวิ่ง (NEDC): มากกว่า 700 km.

ด้วย ระยะทางวิ่ง EV ที่ยาวนานถึง 700 กิโลเมตร (ตามมาตรฐาน NEDC) ทำให้ ZEEKR 7X Long Range RWD เหมาะสำหรับการเดินทางข้ามจังหวัด โดยไม่ต้องกังวลเรื่องสถานีชาร์จบ่อยครั้ง

รุ่น Performance AWD: สุดยอดแห่งสมรรถนะและการควบคุม
สำหรับผู้ที่ต้องการความตื่นเต้นเร้าใจและ รถไฟฟ้าขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่พร้อมรับมือทุกสภาพถนน ZEEKR 7X รุ่น Performance AWD คือตัวเลือกที่ไร้ที่ติ มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัวที่ทำงานร่วมกันเพื่อปลดปล่อยพละกำลังสูงสุดถึง 646 แรงม้า (PS) และแรงบิดสูงสุด 710 นิวตันเมตร ผ่านระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ (AWD All-Wheel Drive) ที่ควบคุมด้วยอิเล็กทรอนิกส์อย่างแม่นยำ:

อัตราเร่ง 0-100 km/h: ภายใน 3.8 วินาที (เทียบเท่าซูเปอร์คาร์)
ความเร็วสูงสุด (Top Speed): 210 km/h
ระยะทางวิ่ง (NEDC): มากกว่า 600 km.

ประสิทธิภาพ EV ระดับนี้ทำให้ ZEEKR 7X Performance AWD เป็นหนึ่งใน SUV ไฟฟ้าสมรรถนะสูง ที่น่าประทับใจที่สุดในตลาดปี 2025 ไม่ว่าจะเป็นการออกตัวที่ดุดัน การเร่งแซงที่มั่นใจ หรือการยึดเกาะถนนที่เหนือชั้นในทุกสภาพอากาศ

นวัตกรรมการชาร์จไฟ: เร็ว แรง ทันใจ

หนึ่งในจุดแข็งที่สำคัญของ ZEEKR 7X คือ นวัตกรรมการชาร์จไฟ ที่ล้ำสมัย ซึ่งได้รับการออกแบบมาเพื่อลดความกังวลเรื่องระยะเวลาในการชาร์จ โดยเฉพาะในยุคที่ผู้ใช้งาน รถยนต์ไฟฟ้า ต้องการความสะดวกสบายสูงสุด รองรับหัวชาร์จ Type 2 / CCS Combo ทั้งกระแสสลับ (AC) และกระแสตรง (DC)

การชาร์จ AC: รองรับสูงสุด 22 kW ซึ่งเหมาะสำหรับการชาร์จที่บ้านหรือตามสถานีชาร์จสาธารณะที่เน้นความสะดวกสบาย
การชาร์จ DC Fast Charging: นี่คือจุดเด่นที่แท้จริง ZEEKR 7X รองรับการชาร์จ DC สูงสุดถึง 420 kW ซึ่งเป็นหนึ่งในอัตราการชาร์จที่เร็วที่สุดในตลาด ด้วยเทคโนโลยีนี้ ทำให้สามารถชาร์จแบตเตอรี่จาก 10% ไปถึง 80% ได้ภายในเวลาเพียง 13-16 นาที เมื่อใช้หัวชาร์จ 360 kW ซึ่งหมายความว่าการแวะพักเพื่อชาร์จไฟจะรวดเร็วแทบไม่ต่างจากการแวะปั๊มน้ำมันเลยทีเดียว นี่คือมาตรฐานใหม่ของ ชาร์จเร็ว EV ที่จะทำให้การเดินทางไกลด้วย รถ EV ไม่ใช่เรื่องยุ่งยากอีกต่อไป
ระบบจ่ายกระแสไฟฟ้าให้อุปกรณ์ภายนอก (V2L): ZEEKR 7X มาพร้อมระบบ V2L ที่สามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าสูงสุด 3.3 kW (3,300 watts) ให้กับอุปกรณ์ภายนอกได้ ซึ่งเป็นฟังก์ชันที่เพิ่มประโยชน์ใช้สอยให้กับรถอย่างมหาศาล ไม่ว่าจะเป็นการนำไปใช้ในกิจกรรมกลางแจ้ง แคมปิ้ง หรือเป็นแหล่งพลังงานสำรองยามฉุกเฉิน นี่คืออีกหนึ่งคุณสมบัติที่ทำให้ ZEEKR 7X ไม่ใช่แค่รถ แต่เป็นพาร์ทเนอร์ที่อเนกประสงค์ในทุกสถานการณ์

ช่วงล่างและระบบเบรก: ความสมดุลระหว่างความสบายและสมรรถนะ

ZEEKR 7X ไม่เพียงโดดเด่นเรื่องขุมพลัง แต่ยังให้ความสำคัญกับประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือระดับ ด้วยช่วงล่างด้านหน้าอิสระแบบ Double Wishbone และด้านหลังอิสระแบบ Multi-Link ซึ่งเป็นโครงสร้างที่ให้ความนุ่มนวลและยึดเกาะถนนได้ดีเยี่ยม โดยเฉพาะเมื่อทำงานร่วมกับระบบช่วงล่างถุงลม Active Air Suspension with CCD ที่สามารถปรับระดับความสูงและความแข็งของช่วงล่างได้อัตโนมัติ ช่วยเพิ่มความสบายในการเดินทางและยกระดับสมรรถนะในการขับขี่ให้สูงสุดในทุกสภาพถนน

นอกจากนี้ ในรุ่นที่มาพร้อมกับล้อ Forged ขนาด 21 นิ้ว พร้อมยางขนาด 265/40 R21 และระบบเบรกดิสก์เบรก 4pot ที่จับคู่กับคาลิปเปอร์เบรก Akebono สีส้ม ซึ่งไม่เพียงแต่เพิ่มความสวยงามสปอร์ต แต่ยังให้ประสิทธิภาพการหยุดรถที่ยอดเยี่ยมและมั่นใจในทุกสถานการณ์

เปิดประสบการณ์ทดสอบ: ZEEKR 7X กับขีดจำกัดที่คาดไม่ถึง

ในฐานะผู้ที่ติดตาม นวัตกรรมยานยนต์ไฟฟ้า มาอย่างใกล้ชิด ผมมีโอกาสได้เข้าร่วมการทดสอบ ZEEKR 7X ก่อนการประกาศราคาอย่างเป็นทางการ ที่เขาใหญ่ และต้องยอมรับว่าสิ่งที่ได้พบนั้นเหนือความคาดหมายอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของ รถไฟฟ้าออฟโรด ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่หลายคนอาจไม่คิดว่าจะหาได้ใน SUV ไฟฟ้า ระดับพรีเมียม

สนามออฟโรด: บทพิสูจน์ที่น่าทึ่ง
ก่อนการทดสอบ ผมเองก็ไม่ได้คาดหวังอะไรมากนักกับรถยนต์ไฟฟ้าในการขับขี่แบบออฟโรด แต่ ZEEKR 7X กลับพิสูจน์ให้เห็นถึงความสามารถที่ไม่ธรรมดา เมื่อเข้าสู่สนามทดสอบและปรับโหมดการขับขี่เป็น “ออฟโรด” ช่วงล่างถุงลม Active Air Suspension ก็ทำงานอัตโนมัติ ยกระดับความสูงของรถขึ้น 230 มิลลิเมตร ซึ่งช่วยเพิ่มระยะห่างจากพื้นดินให้สูงเพียงพอที่จะผ่านอุปสรรคต่างๆ ได้ง่ายขึ้น

เนินสลับ: ในสถานีเนินสลับ ที่ล้อจะลอยจากพื้นทีละข้าง ตัวรถถ่ายกำลังไปยังล้อที่ยังยึดเกาะกับพื้นได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ทำให้รถเคลื่อนที่ไปข้างหน้าได้อย่างราบรื่น สิ่งที่น่าทึ่งคือการให้ตัวของช่วงล่างที่ดีเยี่ยม ตัวรถโคลงเคลงน้อยมาก สร้างความมั่นใจให้กับผู้ขับขี่
เนินชันและการลงเนิน: การขึ้นเนินชันด้วยพละกำลังมหาศาลจากมอเตอร์ไฟฟ้าเป็นเรื่องง่ายดาย และที่น่าประทับใจยิ่งกว่าคือการหยุดกลางเนินแล้วออกตัว รถสามารถจัดการพลังงานได้อย่างชาญฉลาด ไม่ปล่อยแรงบิดรุนแรงจนล้อฟรีทิ้ง ทำให้การควบคุมเป็นไปอย่างนุ่มนวลและมั่นคง ส่วนการลงเนินสูงนั้น ระบบ HDC (Hill Descent Control) หรือระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชันอัตโนมัติ ทำงานได้อย่างราบรื่น ให้ความรู้สึกมั่นคงและปลอดภัยราวกับขับรถยุโรปชั้นนำ ทำให้การลงเนินที่ชันกลายเป็นเรื่องง่ายและสบายใจ
เส้นทางขรุขระ: การวิ่งผ่านเส้นทางขรุขระด้วยช่วงล่างถุงลม ให้ความนุ่มนวลที่ยอดเยี่ยม แต่สิ่งที่โดดเด่นไม่แพ้กันคือพวงมาลัยที่นิ่งสนิท ไม่มีอาการสั่นหรือสะท้านมือให้รู้สึก ทำให้การควบคุมรถยังคงแม่นยำแม้ในสภาพถนนที่ไม่เป็นใจ บอกได้เลยว่า ZEEKR 7X สอบผ่านในบททดสอบออฟโรดอย่างเหนือความคาดหมาย และกลายเป็นจุดเด่นที่สร้างความแตกต่างอย่างชัดเจนในตลาด SUV ไฟฟ้า

สมรรถนะบนทางเรียบ:
แน่นอนว่าบนทางเรียบ ZEEKR 7X ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง พละกำลังอันมหาศาลของทั้งสองรุ่นนั้น ตรงตามสเปกที่ระบุไว้ทุกประการ แรงดึงในรุ่น Performance AWD นั้นทำให้รู้สึกติดเบาะ ให้ความนุ่มนวลแต่แฝงไว้ด้วยพละกำลังที่พร้อมระเบิดออกมาทุกเมื่อ ส่วนรุ่น Long Range RWD ก็ไม่น้อยหน้า ให้แรงดึงที่เพียงพอต่อการใช้งานทั่วไป และสร้างความเร้าใจได้ไม่แพ้กัน ช่วงล่างให้ความนุ่มนวลในระดับที่น่าพอใจ แม้รุ่น Long Range จะมีความรู้สึกแข็งกว่า Performance เล็กน้อย แต่โดยรวมแล้วก็ยังคงมอบประสบการณ์การขับขี่ที่สบายและมั่นคง

ห้องโดยสารพรีเมียม: สุนทรียภาพและความล้ำสมัยในทุกรายละเอียด

ZEEKR 7X ไม่เพียงแต่โดดเด่นเรื่องสมรรถนะ แต่ยังยกระดับประสบการณ์การเดินทางด้วยห้องโดยสารที่ออกแบบมาเพื่อความผ่อนคลายและตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานในทุกมิติ นี่คือสิ่งที่ทำให้มันเป็น รถยนต์ไฟฟ้าหรู อย่างแท้จริง

เบาะหนัง Nappa: ภายในหุ้มด้วยเบาะหนัง Nappa คุณภาพสูง ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องของความนุ่มนวลและความหรูหรา ไม่เพียงให้ความสบายในการนั่ง แต่ยังสื่อถึงรสนิยมระดับสูงของผู้ครอบครอง เบาะคู่หน้ามาพร้อมระบบนวดและเป่าลม ช่วยคลายความเมื่อยล้าจากการขับขี่หรือหลังจากวันทำงานที่หนักหน่วง ทำให้การเดินทางไกลกลายเป็นช่วงเวลาแห่งการพักผ่อนและการฟื้นฟูพลังงาน
เบาะหลังปรับไฟฟ้า: เบาะนั่งด้านหลังสามารถปรับเอนด้วยระบบไฟฟ้า ทำให้ผู้โดยสารสามารถเลือกองศาการนั่งที่เหมาะสมกับกิจกรรมต่างๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน การพักผ่อน หรือการรับชมความบันเทิงเปลี่ยนพื้นที่เบาะหลังให้กลายเป็นห้องนั่งเล่นส่วนตัวที่สมบูรณ์แบบ สะท้อนถึงความใส่ใจในทุกอิริยาบถของผู้โดยสาร
ความสะดวกสบายเพิ่มเติม: ประตูทั้ง 4 บานเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า และม่านบังแดดประตูคู่หลังก็สามารถควบคุมด้วยระบบไฟฟ้าเช่นกัน เพิ่มความสะดวกสบายและความเป็นส่วนตัวให้กับผู้โดยสาร

ระบบสารสนเทศและความบันเทิง: โลกดิจิทัลในมือคุณ
ZEEKR 7X มาพร้อมระบบสารสนเทศและความบันเทิงที่ล้ำสมัยและทรงประสิทธิภาพ ซึ่งขับเคลื่อนด้วยชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 8295 Processor เทคโนโลยี 5nm Process Technology อันทรงพลัง ทำให้การประมวลผลรวดเร็วและราบรื่น ตอบสนองทุกคำสั่งการได้อย่างฉับไว

หน้าจอกลาง Mini LED ขนาด 16 นิ้ว ความละเอียด 3.5K: หน้าจอขนาดใหญ่ความละเอียดสูงนี้มอบภาพที่คมชัดและสีสันสดใส ทำให้การแสดงผลแผนที่ การรับชมสื่อบันเทิง หรือการใช้งานแอปพลิเคชันต่างๆ เป็นไปอย่างราบรื่นและเพลิดเพลิน
หน้าจอ AR HUD ขนาด 36.21 นิ้ว: เทคโนโลยี Augmented Reality Head-Up Display ฉายข้อมูลสำคัญขึ้นบนกระจกหน้ารถโดยตรง ทำให้ผู้ขับขี่สามารถติดตามข้อมูลต่างๆ เช่น ความเร็ว ระบบนำทาง หรือข้อมูล ADAS โดยไม่ต้องละสายตาจากถนน เพิ่มความปลอดภัยและความสะดวกสบายในการขับขี่อย่างมาก
หน้าจอ Cluster ขนาด 13.02 นิ้ว: ทำหน้าที่แสดงข้อมูลการขับขี่ทั้งหมดในรูปแบบที่สวยงามและเข้าใจง่าย ช่วยให้ผู้ขับขี่รับทราบสถานะของรถได้อย่างครบถ้วน
ระบบเสียง ZEEKR Sound Pro: มาพร้อมลำโพงคุณภาพระดับสตูดิโอจำนวน 21 จุดรอบคัน สร้างมิติเสียงรอบทิศทางเสมือนโรงภาพยนตร์เคลื่อนที่ มอบประสบการณ์เสียงที่ดื่มด่ำและสมบูรณ์แบบให้กับทุกการเดินทาง

ความปลอดภัย: ไม่ประนีประนอมในทุกการเดินทาง

ความปลอดภัยคือหัวใจสำคัญในการออกแบบ ZEEKR 7X ซึ่งสร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม SEA (Sustainable Experience Architecture) ที่เป็นสถาปัตยกรรมเฉพาะสำหรับ รถยนต์ไฟฟ้า ที่ออกแบบมาเพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพสูงสุด แพลตฟอร์มนี้ได้รับการรับรองมาตรฐาน Euro NCAP 5 ดาว โดยได้คะแนน 91% สำหรับการปกป้องผู้โดยสารผู้ใหญ่ และ 90% สำหรับการปกป้องผู้โดยสารเด็ก ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ ZEEKR ในการมอบ ความปลอดภัย EV สูงสุดให้กับทุกคนในครอบครัว

ระบบช่วยขับขี่ ZEEKR AD: ทำงานร่วมกับ Dual Mobileye Chips เพิ่มความแม่นยำและเสถียรภาพของระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูง (ADAS) ให้สามารถตรวจจับสภาพแวดล้อมและตอบสนองได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็นระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบปรับได้ (Adaptive Cruise Control), ระบบช่วยรักษาช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist), หรือระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (Autonomous Emergency Braking)
โครงสร้างตัวถัง: ตัวรถใช้โครงสร้างแบบ Dome-Shaped ที่แข็งแกร่ง และโครงสร้างตัวถังหลังแบบ Single Piece Die-Cast แบบชิ้นเดียวไร้รอยต่อ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการผลิตที่ช่วยเพิ่มความแข็งแรงของโครงสร้าง ลดน้ำหนัก และเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันการชนได้อย่างยอดเยี่ยม นอกจากนี้ยังส่งผลให้ ประสิทธิภาพ EV โดยรวมดีขึ้นอีกด้วย

สรุป: ZEEKR 7X redefined a new standard in 2025

ZEEKR 7X ไม่ใช่แค่ SUV ไฟฟ้า อีกรุ่นหนึ่งที่เข้าสู่ตลาดในปี 2025 แต่มันคือนิยามใหม่ของยนตรกรรมไฟฟ้าที่ผสานความหรูหรา สมรรถนะอันทรงพลัง และความอเนกประสงค์ได้อย่างไร้ที่ติ ด้วย เทคโนโลยี 800V ที่ทำให้การชาร์จไฟเป็นไปอย่างรวดเร็ว, ระยะทางวิ่ง EV ที่น่าประทับใจ, ห้องโดยสารที่เต็มเปี่ยมด้วยนวัตกรรมและวัสดุพรีเมียม, และเหนือสิ่งอื่นใดคือความสามารถในการ “ลุย” ที่เหนือความคาดหมาย ทำให้ ZEEKR 7X มีความโดดเด่นและเป็นตัวเลือกที่แตกต่างอย่างชัดเจนในตลาด

ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้ที่กำลังมองหา รถยนต์ไฟฟ้าหรู ที่มอบความสบายสูงสุดในการเดินทาง, ผู้ที่ต้องการ SUV ไฟฟ้าสมรรถนะสูง สำหรับการขับขี่ที่เร้าใจ, หรือแม้แต่ผู้ที่มองหา รถไฟฟ้าขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่พร้อมลุยในเส้นทางที่ไม่ใช่แค่ทางเรียบ ZEEKR 7X ก็สามารถตอบโจทย์ได้อย่างครบถ้วนและเกินความคาดหมาย หากคุณไม่ได้ให้ความสำคัญกับการขับขี่แบบออฟโรดเป็นพิเศษ แต่เน้นการใช้งานในเมืองและการเดินทางไกล รุ่น Long Range RWD ก็เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่า ด้วยช่วงล่างและออปชันต่างๆ ที่จัดเต็มไม่แพ้กัน และให้ ระยะทางวิ่ง EV สูงสุด ที่เพียงพอต่อการใช้งาน

ในมุมมองของผู้เชี่ยวชาญ ZEEKR 7X คือการลงทุนที่ชาญฉลาดใน นวัตกรรมยานยนต์ไฟฟ้า ที่จะมอบประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือกว่าและตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ของคุณได้อย่างสมบูรณ์แบบ นี่คือ รถ EV แห่งอนาคตที่มาถึงแล้วในวันนี้

สัมผัสประสบการณ์ขับขี่แห่งอนาคตก่อนใคร!

คุณพร้อมแล้วหรือยังที่จะเป็นส่วนหนึ่งของวิวัฒนาการยานยนต์ไฟฟ้าครั้งใหม่? ZEEKR 7X ไม่ใช่แค่รถยนต์ แต่คือประตูสู่ประสบการณ์การขับขี่ที่แตกต่างและเหนือระดับในทุกมิติ

เราขอเชิญชวนคุณสัมผัส ZEEKR 7X ด้วยตัวคุณเองที่โชว์รูม ZEEKR ประเทศไทย หรือลงทะเบียนเพื่อรับข้อมูลเพิ่มเติมและนัดหมายทดลองขับก่อนใคร อย่าพลาดโอกาสเป็นเจ้าของ SUV ไฟฟ้าพรีเมียม ที่จะเปลี่ยนทุกการเดินทางของคุณให้กลายเป็นความพิเศษ

ค้นพบอนาคตของการเดินทางได้ที่นี่!