[ครบชุด] 2211173 ถ้าเป็นลูกแหง่ติดแม่ ก็อย่ามีเมียดีกว่า

มินิ คันทรีแมน เอส ออลโฟร์ ไฮทริม (MY2025): เมื่อ “มินิ” ไม่ได้แปลว่า “เล็ก” อีกต่อไป

ในฐานะนักรีวิวรถยนต์ที่คลุกคลีอยู่ในวงการมานานกว่าทศวรรษ ผมได้เห็นการเปลี่ยนแปลงพลิกโฉมของแบรนด์รถยนต์มากมาย แต่คงไม่มีแบรนด์ไหนที่ชวนให้ฉุกคิดและตั้งคำถามได้มากเท่ากับ “MINI” โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับรุ่นล่าสุดอย่าง MINI Countryman S ALL4 Hightrim MY2025 ที่วันนี้มันไม่ใช่แค่รถยนต์ แต่คือภาพสะท้อนของการปรับตัวของแบรนด์ระดับตำนาน ที่เดิมพันกับการขยายขอบเขตนิยามคำว่า “มินิ” ออกไปอย่างกล้าหาญ

ภาพจำของ MINI ในใจคนส่วนใหญ่ยังคงเป็นรถแฮทช์แบ็กขนาดกะทัดรัด ขับขี่สนุกสนาน มีบุคลิกเฉพาะตัว และเปี่ยมด้วยเสน่ห์แบบอังกฤษคลาสสิก แต่หลังจากที่ BMW เข้ามาเป็นผู้กุมบังเหียนในปี 1999 MINI ก็เริ่มก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ที่มุ่งเน้นการขยายฐานลูกค้า การใช้งานที่หลากหลาย และแน่นอนว่า…ขนาดตัวถังที่ใหญ่ขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และในรุ่นปี 2025 นี้ MINI Countryman S ALL4 Hightrim คือจุดสูงสุดของการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว มันไม่ใช่แค่รถยนต์พรีเมียมครอสโอเวอร์ที่ใหญ่ที่สุดของ MINI เท่านั้น แต่ยังเป็นบทสนทนาที่สำคัญว่า “จิตวิญญาณของ MINI” จะคงอยู่ได้อย่างไรในโลกที่ความต้องการของผู้บริโภคเปลี่ยนไป

การเปลี่ยนแปลงที่ไม่อาจปฏิเสธ: จากความเล็กสู่ความยิ่งใหญ่

ตลอดหลายปีที่ผ่านมา MINI Countryman ได้รับความนิยมในฐานะครอสโอเวอร์ที่ผสมผสานเอกลักษณ์ของ MINI เข้ากับความอเนกประสงค์ได้อย่างลงตัว แต่สำหรับ Countryman เจเนอเรชันที่ 3 ในรุ่นปี 2025 นี้ มันก้าวข้ามทุกขีดจำกัดของ “ความเป็นมินิ” ที่เราเคยรู้จักไปไกลลิบ มิติตัวถังที่ขยายใหญ่ขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ทำให้รถคันนี้ดูใหญ่โตเกินกว่าชื่อเรียก “มินิ” ไปมาก เมื่อจอดเทียบเคียงกับรถยนต์ในกลุ่มพรีเมียมครอสโอเวอร์ขนาดกลางอย่าง BMW X3 เจเนอเรชันก่อนหน้า คุณจะพบว่า Countryman โฉมใหม่นี้มีขนาดที่ใกล้เคียงกันจนน่าตกใจ

การเติบโตด้านขนาดไม่ใช่แค่ตัวเลข แต่เป็นการออกแบบที่ตั้งใจปรับให้ใหญ่ขึ้นในทุกมิติ Countryman MY2025 ยาวขึ้น 130 มิลลิเมตร กว้างขึ้น 22 มิลลิเมตร และสูงขึ้น 80 มิลลิเมตร เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า การเพิ่มขึ้นของมิติเหล่านี้ไม่ได้ทำมาเพื่อความหรูหราเท่านั้น แต่ยังแปลเป็นพื้นที่ใช้สอยภายในที่กว้างขวางขึ้นอย่างชัดเจน ทั้งพื้นที่วางขาของผู้โดยสารด้านหลัง พื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้ายที่ขยายใหญ่ขึ้นเป็น 450 ลิตร และสามารถเพิ่มเป็น 1,450 ลิตรเมื่อพับเบาะหลังลง สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่า MINI กำลังพยายามเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่ต้องการรถยนต์ที่สามารถตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันของครอบครัวขนาดเล็ก หรือผู้ที่ชื่นชอบกิจกรรมกลางแจ้งที่ต้องการพื้นที่เก็บสัมภาระที่มากกว่าเดิม

การออกแบบภายนอกยังคงเน้นเส้นสายที่ดูแข็งแกร่งและบึกบึนมากขึ้น รูปทรงตัวถังที่ดูเป็นกล่องสี่เหลี่ยมมากขึ้น ส่งผลให้รถดูใหญ่โตและมั่นคงบนท้องถนน การปรับเปลี่ยนครั้งใหญ่นี้แสดงให้เห็นว่า MINI กำลังท้าทายตัวเองด้วยการนำเสนอสิ่งที่แตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคที่ตลาดรถยนต์ไฟฟ้ากำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว การออกแบบที่ดูทันสมัยและล้ำยุคนี้จึงเป็นเหมือนการเตรียมพร้อมสำหรับการเปลี่ยนผ่านไปสู่ยุคพลังงานใหม่ที่กำลังจะมาถึง

MINI Countryman S ALL4 Hightrim (MY2025) ราคาอัปเดต: 2,499,000 บาท

มิติตัวถัง:
ความยาว 4,433 มิลลิเมตร
ความกว้าง 1,843 มิลลิเมตร
ความสูง 1,656 มิลลิเมตร
ความยาวฐานล้อ 2,692 มิลลิเมตร
ระยะห่างจากพื้นถึงใต้ท้องรถ 165 มิลลิเมตร
พื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลัง 450 ลิตร / 1,450 ลิตร (เมื่อพับเบาะหลัง)

ดีไซน์ภายนอก: ความโมเดิร์นที่อาจทำให้แฟนพันธุ์แท้ต้องเหลียวหลัง

ก้าวแรกที่ได้เห็น MINI Countryman S ALL4 Hightrim MY2025 คำว่า “ล้ำสมัย” ผุดขึ้นมาเป็นคำแรก การออกแบบภายนอกแตกต่างไปจาก MINI ทุกรุ่นที่ผ่านมาอย่างสิ้นเชิง ไฟหน้า LED ดีไซน์ใหม่ที่ดูเรียบง่ายแต่เฉียบคม กระจังหน้าแปดเหลี่ยมขนาดใหญ่ที่ดูล้ำยุคและลดทอนความโค้งมนแบบดั้งเดิมลงอย่างเห็นได้ชัด เส้นสายตัวถังที่เน้นความเหลี่ยมสันมากขึ้น ทำให้รถดูบึกบึนและมีมิติมากกว่าเดิม

ในมุมมองของผมที่เห็นการวิวัฒนาการของ MINI มาตลอดสิบปี การออกแบบในทิศทางนี้เหมือนดาบสองคม มันดึงดูดลูกค้ากลุ่มใหม่ที่มองหารถยนต์พรีเมียมครอสโอเวอร์ที่มีดีไซน์ทันสมัย และยังคงกลิ่นอายของแบรนด์ดังจากยุโรป แต่ในขณะเดียวกัน มันก็อาจทำให้แฟนพันธุ์แท้ของ MINI ที่หลงใหลในความคลาสสิกและน่ารักต้องรู้สึกผิดหวังและตั้งคำถามว่า “นี่ใช่ MINI ที่เรารู้จักจริงหรือ?” การออกแบบนี้ดูเหมือนจะเตรียมพร้อมสำหรับการเปลี่ยนผ่านไปสู่ยุครถยนต์ไฟฟ้าในอนาคต ซึ่งแน่นอนว่าการใช้ชิ้นส่วนร่วมกันหรือแนวคิดการออกแบบเดียวกันย่อมส่งผลต่อต้นทุนการผลิต แต่คำถามคือ แล้ว “เอกลักษณ์” ที่เป็นหัวใจของ MINI จะยังคงอยู่ได้มากน้อยแค่ไหน?

ก้าวเข้าสู่ห้องโดยสาร: เทคโนโลยีดิจิทัลที่มาพร้อมความกว้างขวาง

เมื่อเปิดประตูเข้ามาในห้องโดยสารของ Countryman S ALL4 Hightrim MY2025 สิ่งแรกที่ดึงดูดสายตาและทำให้เรารู้สึกว่านี่คือ “MINI ยุคใหม่” อย่างแท้จริง คือหน้าจอกลางทรงกลมแบบ OLED ขนาด 240 มิลลิเมตร (9.44 นิ้ว) ที่ยังคงเป็นเอกลักษณ์สำคัญที่เหลืออยู่ของ MINI ในยุคปัจจุบัน จอแสดงผลนี้ไม่ใช่แค่จอแสดงผลทั่วไป แต่เป็นศูนย์กลางการควบคุมที่ใช้ระบบปฏิบัติการ MINI Operation System 9 ซึ่งได้รับการออกแบบมาเพื่อการใช้งานที่ง่ายและลื่นไหล รองรับการสั่งงานด้วยเสียง “Hey MINI” ที่เข้าใจภาษาธรรมชาติได้ดีเยี่ยม พร้อมระบบนำทาง MINI Navigation ที่ใช้งานได้จริง

ภายในห้องโดยสารถูกออกแบบมาให้รู้สึกกว้างขวางและโปร่งโล่ง ด้วยวัสดุคุณภาพสูง เบาะนั่งหุ้มด้วยหนัง Vascin สีน้ำตาล Vintage Brown ที่ให้สัมผัสพรีเมียมและลงตัวกับภาพลักษณ์ของรถยนต์หรู เบาะนั่งคู่หน้าปรับด้วยไฟฟ้า พร้อมระบบจดจำตำแหน่งเบาะ (Memory Seats) และเบาะนั่งคนขับที่มีระบบ Active Seats ที่ช่วยเพิ่มความสบายในการเดินทางไกล นอกจากนี้ หลังคากระจก Panoramic Glass-roof ขนาดใหญ่ ยังช่วยเพิ่มความสว่างและความรู้สึกโปร่งสบายให้กับห้องโดยสารได้อย่างยอดเยี่ยม

MINI ไม่ได้มองข้ามความบันเทิง ด้วยการติดตั้งเครื่องเสียง Harman Kardon พร้อมลำโพง 12 ตำแหน่งที่ให้คุณภาพเสียงที่คมชัดและทรงพลัง รวมถึงแท่นชาร์จโทรศัพท์ไร้สายที่ช่วยให้การเชื่อมต่อเป็นไปอย่างสะดวกสบาย สำหรับความอเนกประสงค์ เบาะนั่งด้านหลังสามารถปรับเอนและพับได้แบบ 60:40 พร้อมพนักวางแขนตรงกลาง ทำให้การจัดเก็บสัมภาระขนาดใหญ่หรือการเดินทางพร้อมผู้โดยสารมีความยืดหยุ่นมากขึ้น พื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลังที่ขยายใหญ่ขึ้นเป็น 450 ลิตร และสามารถเพิ่มเป็น 1,450 ลิตรเมื่อพับเบาะหลังลงนั้น ตอบโจทย์การใช้งานของครอบครัวยุคใหม่ที่ต้องการพื้นที่เก็บของที่เพียงพอสำหรับทริปสั้นๆ หรือการช้อปปิ้งในชีวิตประจำวันได้อย่างดีเยี่ยม

ขุมพลังและสมรรถนะ: เพียงพอต่อการใช้งาน แต่ไม่เน้นความดุดัน

ภายใต้ฝากระโปรงของ MINI Countryman S ALL4 Hightrim MY2025 บรรจุเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว ขนาด 2.0 ลิตร 1,998 ซีซี พร้อมระบบอัดอากาศ TwinPower Turbo และเทคโนโลยี Double VANOS กับ Valvetronic ให้กำลังสูงสุด 204 แรงม้า (PS) ที่ 5,000 – 6,500 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 300 นิวตันเมตร ที่ 1,400 – 4,500 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 7DCT

ประเด็นที่น่าสนใจและอาจทำให้หลายคนสับสนคือชื่อรุ่น “S ALL4” ที่โดยปกติแล้ว “ALL4” มักจะหมายถึงระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ แต่สำหรับรุ่น S Hightrim นี้ จากข้อมูลที่ระบุมา รถคันนี้มาพร้อมระบบขับเคลื่อนล้อหน้า (FWD) ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคควรทำความเข้าใจให้ชัดเจน ตัวเลขสมรรถนะที่โรงงานเคลมมาคือ อัตราเร่ง 0-100 km/h ภายใน 7.4 วินาที และความเร็วสูงสุด 228 km/h ซึ่งถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดีสำหรับรถยนต์ครอสโอเวอร์ขนาดนี้

จากประสบการณ์การขับขี่ ต้องยอมรับว่าพละกำลัง 204 แรงม้า กับขนาดตัวถังที่ใหญ่ขึ้นนี้ “พอเพียง” ต่อการใช้งานในชีวิตประจำวันและสำหรับการเดินทางไกล ไม่ได้ให้ความรู้สึกที่ “แรงจัด” หรือ “ดุดัน” อย่างที่อาจจะคาดหวังจากชื่อ “MINI S” ในอดีต ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการปรับเปลี่ยนปรัชญาของ Countryman ที่มุ่งเน้นความสมดุลระหว่างสมรรถนะกับการใช้งานจริงมากขึ้น อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงในการใช้งานจริงอยู่ที่ประมาณ 13-14 กิโลเมตรต่อลิตร ซึ่งถือว่าทำได้ดีสำหรับรถยนต์ในกลุ่มนี้ และหากพิจารณาว่าเป็นรถที่มีขนาดตัวถังและน้ำหนักที่เพิ่มขึ้น ก็ยิ่งถือว่าน่าประทับใจ

สัมผัสแห่งการขับขี่: ความมั่นคงที่แลกมาด้วยความคล่องตัวแบบเดิม

เมื่อพูดถึงการขับขี่ สิ่งที่ยังคงเป็นเอกลักษณ์ของ MINI ที่ไม่เคยจางหายไปเลยคือ “ความแข็ง” ของช่วงล่าง แม้ Countryman จะมีขนาดใหญ่ขึ้น แต่ช่วงล่างยังคงให้ฟีดแบ็กจากพื้นผิวถนนได้อย่างชัดเจน ซึ่งอาจจะเป็นข้อดีสำหรับผู้ที่ชื่นชอบความรู้สึกที่เชื่อมโยงกับถนน แต่ก็อาจเป็นข้อด้อยสำหรับผู้ที่ต้องการความนุ่มนวลในการเดินทาง อย่างไรก็ตาม ความแข็งของช่วงล่างนี้ส่งผลให้รถมีความมั่นคงและควบคุมได้ง่ายในความเร็วสูง

แต่ด้วยขนาดตัวถังที่ใหญ่ขึ้น ทำให้ในบางสถานการณ์ เช่น การเปลี่ยนเลนกะทันหัน หรือการเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง ตัวรถจะมีการตอบสนองที่ชัดเจนกว่า MINI รุ่นเล็กๆ และจะรู้สึกถึงแรงต้านของลมที่เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากมิติที่ขยายใหญ่ขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ในทางกลับกัน ความมั่นคงที่เพิ่มขึ้นนี้ก็ช่วยให้การเดินทางด้วยความเร็วสูงเป็นไปอย่างราบรื่นและรู้สึกปลอดภัยมากขึ้น

MINI Experience Modes ที่มีให้เลือกหลากหลาย อาทิ Core Mode, Go-Kart Mode, Green Mode, Balance Mode, Timeless Mode, Vivid Mode และ Personal Mode ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถปรับบุคลิกของรถให้เข้ากับอารมณ์และสภาพการขับขี่ได้ Go-Kart Mode ยังคงพยายามมอบความรู้สึกสนุกสนานในการขับขี่ แต่ด้วยขนาดและน้ำหนักที่เพิ่มขึ้น ทำให้ความรู้สึก “โกคาร์ท” แบบแท้ๆ อาจจะลดทอนลงไปบ้าง และกลายเป็น “โกคาร์ทขนาดใหญ่” ที่เน้นความสนุกแบบมั่นคงแทน

ในด้านระบบช่วยเหลือการขับขี่และระบบความปลอดภัย Countryman S ALL4 Hightrim จัดเต็มมาให้เพื่อความอุ่นใจของผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ด้วยถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง, ระบบป้องกันล้อล็อก ABS, ระบบกระจายแรงเบรก DBC, ระบบช่วยเบรกขณะเข้าโค้ง CBC, ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว DSC, ระบบเตือนก่อนการชนด้านหน้า พร้อมระบบช่วยเหลือการขับขี่ Driving Assistant ที่ครบครัน จุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็ก ISOFIX ก็มีมาให้พร้อม ช่วยให้การเดินทางของครอบครัวมีความปลอดภัยสูงสุด

บทสรุป: MINI Countryman MY2025 คืออะไร?

MINI Countryman S ALL4 Hightrim MY2025 คือการประกาศก้องว่า MINI ไม่ได้ยึดติดกับภาพลักษณ์เดิมๆ อีกต่อไป มันคือรถยนต์ที่ก้าวข้ามขีดจำกัดของคำว่า “มินิ” ไปสู่ความเป็นพรีเมียมครอสโอเวอร์ที่เน้นการใช้งานจริง ความกว้างขวาง และเทคโนโลยีสุดล้ำ หากคุณเป็นแฟนพันธุ์แท้ที่หลงใหลในความน่ารักกะทัดรัดและฟิลลิ่งการขับขี่แบบโกคาร์ทจ๋าๆ คุณอาจจะต้องปรับมุมมองใหม่ หรืออาจจะรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย

แต่ถ้าคุณมองหารถยนต์พรีเมียมครอสโอเวอร์ที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร มีดีไซน์ล้ำสมัย ห้องโดยสารกว้างขวาง เทคโนโลยีจัดเต็ม และยังคงมีกลิ่นอายของแบรนด์ MINI ที่เป็นเอกลักษณ์ พร้อมสมรรถนะที่เพียงพอต่อการใช้งานในชีวิตประจำวัน รวมถึงระบบความปลอดภัยที่ครบครัน MINI Countryman S ALL4 Hightrim MY2025 คันนี้คือตัวเลือกที่น่าสนใจอย่างยิ่ง มันคือ MINI ที่เติบโตขึ้น เข้าใจความต้องการของตลาดมากขึ้น และพร้อมที่จะพาคุณไปได้ไกลกว่าที่เคย

ในฐานะนักรีวิว ผมมองว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้คือความกล้าหาญของ MINI ที่ยอมเดิมพันกับอนาคต แม้จะต้องแลกมากับการที่ “ความเป็นมินิ” ในความรู้สึกแบบเดิมๆ ลดลงไปบ้าง แต่สิ่งที่ได้มาคือรถยนต์ที่ตอบโจทย์การใช้งานของคนยุคใหม่ได้อย่างลงตัวและมีประสิทธิภาพสูงขึ้นมาก มันไม่ใช่แค่รถยนต์ แต่คือภาพสะท้อนของการปรับตัวในโลกที่ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว

อย่าเพิ่งตัดสินจนกว่าจะได้สัมผัส!

หากคุณกำลังมองหารถยนต์พรีเมียมครอสโอเวอร์ที่แตกต่างและโดดเด่นด้วยดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ พร้อมเทคโนโลยีสุดล้ำและพื้นที่ใช้สอยที่ครบครัน ผมขอเชิญชวนให้คุณมาสัมผัสประสบการณ์จริงกับ MINI Countryman S ALL4 Hightrim MY2025 ด้วยตัวคุณเอง ไม่ว่าคุณจะเป็นแฟน MINI มานาน หรือเพิ่งรู้จักแบรนด์นี้เป็นครั้งแรก การได้ลองขับจะเปิดมุมมองใหม่ๆ และช่วยให้คุณตัดสินใจได้ว่า “มินิ คันทรีแมน” คันนี้ใช่สำหรับคุณหรือไม่ อย่ารอช้า! ติดต่อผู้จำหน่าย MINI ใกล้บ้านคุณเพื่อทดลองขับและค้นพบนิยามใหม่ของคำว่า “มินิ” ได้แล้ววันนี้!