[ครบชุด] 2211181 เจ็บที่สุด เมื่อรู้ว่าเป็นแค่ตัวแทนของคนเก่า

MINI Countryman S ALL4 Hightrim MY2025: เมื่อไอคอนเปลี่ยนผ่านสู่มิติใหม่ของครอสโอเวอร์พรีเมียม (บทวิเคราะห์จากผู้เชี่ยวชาญ 10 ปี)

ในโลกยานยนต์ที่หมุนไปอย่างไม่หยุดยั้ง การเปลี่ยนแปลงคือสิ่งที่เราเห็นได้แทบจะทุกวัน โดยเฉพาะกับแบรนด์ที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานอย่าง MINI การก้าวเข้าสู่ปี 2025 พร้อมกับการเผยโฉมของ MINI Countryman S ALL4 Hightrim เจนเนอเรชั่นที่ 3 ไม่ใช่เพียงแค่การ “ปรับโฉม” ทั่วไป แต่มันคือการ “ปฏิวัติ” ที่ redefine คำว่า “MINI” ไปสู่ขอบเขตใหม่ที่ใหญ่ขึ้น ก้าวล้ำขึ้น และพร้อมตอบโจทย์การใช้งานในแบบที่แฟนพันธุ์แท้บางคนอาจจะตั้งคำถาม แต่ในฐานะผู้ที่คลุกคลีอยู่ในวงการนี้มานับทศวรรษ ผมมองว่านี่คือการเดินเกมที่ชาญฉลาด เพื่อให้ MINI ยังคง Relevance และเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งในตลาด ครอสโอเวอร์หรู ที่ดุเดือด

ภาพจำของ MINI ในใจคนส่วนใหญ่คือรถยนต์คันเล็กน่ารัก ทรงสปอร์ต ขับขี่สนุก และมีบุคลิกเฉพาะตัวที่ไม่เหมือนใคร แต่หลังจากที่ BMW เข้ามาบริหารจัดการอย่างเต็มตัวในปี 1999 แนวคิดในการพัฒนา MINI ก็เริ่มเปลี่ยนไป การขยายไลน์ผลิตภัณฑ์เพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายขึ้นคือหัวใจสำคัญ และ Countryman ก็คือหนึ่งในผลลัพธ์ที่ประสบความสำเร็จอย่างงดงามในการพา MINI ก้าวเข้าสู่ตลาด รถยนต์อเนกประสงค์ ขนาดกะทัดรัด (ในเวลานั้น)

แต่สำหรับ Countryman S ALL4 Hightrim MY2025 นี้ ภาพลักษณ์ของ “MINI” ที่เคยคุ้นตาได้ถูกท้าทายอย่างสิ้นเชิง มันเติบโตขึ้นอย่างน่าตกใจจนเกือบเทียบเท่า BMW X3 ในเจเนอเรชั่นที่ผ่านมา ด้วยขนาดที่ใหญ่ขึ้นมหาศาล พร้อมดีไซน์ที่ดูทันสมัย ล้ำยุค และแฝงกลิ่นอายของยานยนต์ไฟฟ้า นี่ไม่ใช่แค่การขยายตัว แต่คือการปรับทิศทางครั้งสำคัญที่อาจทำให้เราต้องเปลี่ยนนิยามของ MINI ไปตลอดกาล บทความนี้จะพาคุณเจาะลึกทุกแง่มุมของ MINI Countryman S ALL4 Hightrim MY2025 จากมุมมองของผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้คุณเห็นภาพรวมทั้งหมดและเข้าใจถึงปรัชญาเบื้องหลังการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้

การเติบโตที่ไม่เคยหยุดนิ่ง: จาก “Mini” สู่ “Maxi”

สิ่งแรกที่สะกดทุกสายตาเมื่อได้เห็น Countryman S ALL4 Hightrim MY2025 คือขนาดตัวถังที่ “โตเต็มวัย” อย่างเห็นได้ชัด ความยาวที่เพิ่มขึ้น 130 มิลลิเมตร ความกว้าง 22 มิลลิเมตร และความสูงอีก 80 มิลลิเมตร เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า ไม่เพียงแค่ตัวเลขบนกระดาษ แต่มันให้ความรู้สึกว่ารถคันนี้ไม่ใช่ MINI อีกต่อไปในแง่ของสัดส่วน มันคือ ครอสโอเวอร์ระดับพรีเมียม ที่สามารถยืนเคียงบ่าเคียงไหล่กับรถจากค่ายอื่นในเซกเมนต์เดียวกันได้อย่างเต็มภาคภูมิ

มิติที่ใหญ่ขึ้นนี้เป็นผลมาจากการที่ MINI ต้องการตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ที่มองหา รถยนต์อเนกประสงค์สำหรับครอบครัว ที่มอบพื้นที่ใช้สอยภายในที่กว้างขวางขึ้น สะดวกสบายขึ้น และรองรับการเดินทางหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่การขับขี่ในเมือง ไปจนถึงการผจญภัยในวันหยุดสุดสัปดาห์ การออกแบบตัวถังที่เน้นความเหลี่ยมมุมมากขึ้น พร้อมเส้นสายที่ดูแข็งแกร่ง ผสมผสานกับดีไซน์ไฟหน้าที่ดูเฉียบคมและไฟท้ายแบบ Union Jack ที่ปรับปรุงใหม่ ทำให้ Countryman ใหม่ดูทะมัดทะแมงและทันสมัยแบบก้าวกระโดด มันไม่ใช่แค่การขยายขนาด แต่มันคือการสร้างแพลตฟอร์มใหม่ที่ยืดหยุ่น เพื่อรองรับทั้งขุมพลังสันดาปและระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าในอนาคต

ตัวเลขมิติตัวถังของ MINI Countryman S ALL4 Hightrim MY2025:
ความยาว: 4,433 มิลลิเมตร
ความกว้าง: 1,843 มิลลิเมตร
ความสูง: 1,656 มิลลิเมตร
ความยาวฐานล้อ: 2,692 มิลลิเมตร
ระยะห่างจากพื้นถึงใต้ท้องรถ: 165 มิลลิเมตร
พื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลัง: 450 ลิตร (เพิ่มเป็น 1,450 ลิตร เมื่อพับเบาะหลัง)

จะเห็นได้ว่าพื้นที่เก็บสัมภาระที่เพิ่มขึ้นมาอย่างมหาศาลนั้น เป็นจุดแข็งที่สำคัญที่ทำให้ Countryman ใหม่สามารถตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการขนของไปช้อปปิ้งในเมือง หรือการจัดสัมภาระสำหรับการเดินทางไกลกับครอบครัว นี่คือสิ่งที่ลูกค้าในกลุ่ม รถครอบครัว มองหาและให้ความสำคัญ

หัวใจแห่งสมรรถนะ: เครื่องยนต์และการขับเคลื่อน

ภายใต้รูปลักษณ์ที่เติบโตขึ้น Countryman S ALL4 Hightrim MY2025 ยังคงวางใจในขุมพลังที่ได้รับการพิสูจน์แล้ว ด้วย เครื่องยนต์เบนซิน TwinPower Turbo แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว ขนาด 2.0 ลิตร (1,998 ซีซี) ที่มาพร้อมเทคโนโลยีการจ่ายเชื้อเพลิงแบบ Direct Injection, ระบบอัดอากาศ TwinPower Turbo, Intercooler, Double VANOS และ Valvetronic ครบครัน

พละกำลังสูงสุดที่ 204 แรงม้า (PS) ที่ 5,000 – 6,500 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 300 นิวตันเมตร ที่ 1,400 – 4,500 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่าน เกียร์อัตโนมัติ 7DCT (คลัตช์คู่ 7 จังหวะ) และแน่นอนว่าด้วยชื่อรุ่น “S ALL4” นั่นหมายถึงระบบ ขับเคลื่อนสี่ล้อ ที่พร้อมมอบการยึดเกาะถนนที่เหนือกว่าในทุกสภาพเส้นทาง ไม่ว่าจะเป็นถนนเปียก การขับขี่บนทางหลวง หรือแม้แต่การลุยในเส้นทางที่ไม่คุ้นเคยเล็กน้อย

ตัวเลขสมรรถนะที่โรงงานเคลมไว้:
อัตราเร่ง 0-100 km/h: ภายใน 7.4 วินาที
ความเร็วสูงสุด (Top Speed): 228 km/h

จากประสบการณ์ 10 ปีในอุตสาหกรรมยานยนต์ ตัวเลขเหล่านี้ถือว่า “เพียงพอ” ต่อการใช้งานในชีวิตประจำวันอย่างแน่นอน สำหรับรถครอสโอเวอร์ขนาดนี้ มันไม่ได้ให้ความรู้สึกกระชากใจเหมือนรถสปอร์ตขนาดเล็กของ MINI ในอดีต แต่มันมอบการเร่งแซงที่มั่นใจได้ การตอบสนองที่ฉับไวของเกียร์ 7DCT ทำให้การขับขี่ในเมืองคล่องตัว และการเดินทางไกลก็ราบรื่นไร้กังวล ด้วยระบบ ALL4 ทำให้การออกตัวและการยึดเกาะในทางโค้งทำได้ดีเยี่ยม เพิ่ม ความปลอดภัยในการขับขี่ และสร้างความมั่นใจให้กับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร

อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ยที่ประมาณ 13-14 km/L ในการใช้งานจริง ถือว่าน่าประทับใจสำหรับ รถยนต์พรีเมียมขับเคลื่อนสี่ล้อ ในยุคปัจจุบัน ด้วยเทคโนโลยีเครื่องยนต์ที่ล้ำสมัยและการจัดการพลังงานที่ดีเยี่ยม ทำให้ Countryman S ALL4 Hightrim MY2025 เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่มองหาความสมดุลระหว่างสมรรถนะและ ความประหยัดน้ำมัน

ประสบการณ์การขับขี่: ความสมดุลที่เปลี่ยนไป

นี่คือส่วนที่ผมให้ความสำคัญมากที่สุดในการวิเคราะห์รถยนต์ เพราะตัวเลขบนกระดาษไม่เคยเล่าเรื่องราวทั้งหมด สำหรับ Countryman S ALL4 Hightrim MY2025 ประสบการณ์การขับขี่มีการเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจ

ช่วงล่าง: เอกลักษณ์อย่างหนึ่งของ MINI คือช่วงล่างที่ “แข็ง” หรือ “เฟิร์ม” ซึ่งมอบความรู้สึกแบบ Go-Kart อันเป็นที่รักของใครหลายคน ใน Countryman ใหม่นี้ ความเฟิร์มนั้นยังคงอยู่ คุณยังคงสัมผัสได้ถึงพื้นผิวถนนเกือบทุกตารางนิ้ว ซึ่งอาจจะเป็นทั้งข้อดีและข้อเสีย ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคล สำหรับคนที่ชอบความสปอร์ตและความรู้สึกที่เชื่อมโยงกับถนน นี่คือสิ่งที่ MINI ยังคงไว้ แต่สำหรับผู้ที่คาดหวังความนุ่มนวลแบบรถครอสโอเวอร์ขนาดใหญ่ทั่วไป อาจจะต้องปรับตัวเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม ด้วยขนาดตัวรถที่ใหญ่ขึ้นและฐานล้อที่ยาวขึ้น ทำให้ความมั่นคงในการขับขี่ที่ความเร็วสูงทำได้ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเทียบกับ MINI รุ่นเล็ก

การควบคุม: พวงมาลัยยังคงมีน้ำหนักดี ให้การตอบสนองที่แม่นยำตามสไตล์ MINI แม้ตัวรถจะใหญ่ขึ้น แต่การเลี้ยวเข้าโค้งยังคงให้ความรู้สึกที่มั่นใจ การเปลี่ยนเลนที่ความเร็วสูงอาจมีอาการโยนตัวเล็กน้อย ซึ่งเป็นธรรมชาติของรถที่มีจุดศูนย์ถ่วงสูงและมิติที่ใหญ่ขึ้น แต่ก็อยู่ในระดับที่ยอมรับได้และไม่ก่อให้เกิดความรู้สึกไม่ปลอดภัย

โหมดการขับขี่ MINI Experience Modes: นี่คือจุดเด่นที่สำคัญที่ทำให้การขับขี่มีความหลากหลายและน่าสนุกยิ่งขึ้น ระบบนี้ไม่ได้แค่เปลี่ยนกราฟิกบนหน้าจอ แต่ยังปรับการตอบสนองของเครื่องยนต์ เกียร์ และแม้กระทั่งการตั้งค่าระบบช่วยเหลือการขับขี่ พร้อมสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสารที่แตกต่างกัน:
Core Mode: โหมดมาตรฐานสำหรับการขับขี่ทั่วไป
Go-Kart Mode: สำหรับผู้ที่ต้องการความสปอร์ตสูงสุด การตอบสนองที่คมชัด พวงมาลัยหนักแน่นขึ้น
Green Mode: เน้น ความประหยัดน้ำมัน การตอบสนองของคันเร่งจะนุ่มนวลลง
Balance Mode: ค้นหาความสมดุลระหว่างความสะดวกสบายและประสิทธิภาพ
Timeless Mode: ย้อนรำลึกถึงความคลาสสิกของ MINI ด้วยกราฟิกแบบอนาล็อก
Vivid Mode: สร้างสีสันและบรรยากาศที่สดใส
Personal Mode: ปรับแต่งการตั้งค่าได้ตามใจชอบ

ความหลากหลายของโหมดเหล่านี้ทำให้ Countryman S ALL4 Hightrim MY2025 สามารถปรับตัวเข้ากับการใช้งานและอารมณ์ของผู้ขับขี่ได้อย่างยืดหยุ่น นี่คือ เทคโนโลยีรถยนต์ ที่ช่วยยกระดับ ประสบการณ์ขับขี่ ให้ก้าวไปอีกขั้น

ห้องโดยสาร: ความหรูหราที่เชื่อมต่อกับอนาคต

ก้าวเข้ามาภายในห้องโดยสารของ Countryman S ALL4 Hightrim MY2025 คุณจะพบกับความเปลี่ยนแปลงที่โดดเด่นและน่าประทับใจไม่แพ้ภายนอก การออกแบบภายในยังคงรักษาเอกลักษณ์ของ MINI ด้วยจอแสดงผลกลางทรงกลมขนาดใหญ่ แต่คราวนี้เป็น จอ OLED ขนาด 240 มิลลิเมตร (9.44 นิ้ว) ที่ให้สีสันคมชัด สวยงาม และเป็นศูนย์กลางการควบคุมเกือบทุกฟังก์ชันของรถ ทำงานบน ระบบปฏิบัติการ MINI Operation System 9 ใหม่ล่าสุด รองรับการสั่งงานด้วยเสียง “Hey MINI” ที่ชาญฉลาด และมาพร้อมระบบนำทาง MINI Navigation ที่ใช้งานง่าย

วัสดุที่ใช้ภายในห้องโดยสารยกระดับความหรูหราและสัมผัสที่พรีเมียมขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ไม่ว่าจะเป็น วัสดุผ้าหลังคาสีดำ Anthracite Headliners ที่ช่วยสร้างบรรยากาศที่อบอุ่นและสปอร์ต หรือเบาะนั่งหุ้มด้วย หนัง Vascin สีน้ำตาล Vintage Brown ที่ให้ความรู้สึกคลาสสิกแต่ทันสมัย พร้อมการตัดเย็บที่ประณีต เบาะนั่งคู่หน้าปรับด้วยไฟฟ้า พร้อม ระบบจดจำตำแหน่งเบาะ (Memory Seats) และ ระบบเบาะนั่ง Active Seats สำหรับผู้ขับขี่ ช่วยเพิ่ม ความสะดวกสบาย ในการเดินทางไกล

ความใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ยังรวมถึง หลังคากระจก Panoramic Glass-roof บานใหญ่ที่เปิดรับแสงธรรมชาติ ให้ความรู้สึกโปร่งโล่งสบาย และ เครื่องเสียง Harman Kardon ลำโพง 12 ตำแหน่ง ที่มอบมิติเสียงคมชัดเต็มอารมณ์ ระบบแสดงข้อมูลบนกระจกหน้า MINI Head-up Display ช่วยให้ผู้ขับขี่ไม่จำเป็นต้องละสายตาจากถนน

สำหรับผู้โดยสารด้านหลังก็ไม่ถูกละเลย เบาะนั่งด้านหลังแบบปรับเอนและพับได้ 60:40 พร้อมพนักวางแขนตำแหน่งกลาง มอบความยืดหยุ่นในการใช้งานและ ความสะดวกสบาย ไม่ต่างจากที่นั่งด้านหน้า นอกจากนี้ ยังมี กล้องมองภาพรอบคัน 360 องศา ที่ช่วยให้การจอดรถและถอยรถเป็นเรื่องง่าย และ แท่นชาร์จโทรศัพท์ไร้สาย ที่เป็นมาตรฐานของ รถยนต์พรีเมียม ยุคใหม่

ระบบความปลอดภัยและช่วยเหลือการขับขี่: มั่นใจทุกเส้นทาง

ในฐานะ รถยนต์อเนกประสงค์สำหรับครอบครัว MINI Countryman S ALL4 Hightrim MY2025 ไม่ได้มองข้ามเรื่องความปลอดภัย มันมาพร้อมชุดเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยและระบบช่วยเหลือการขับขี่ที่ครบครัน เพื่อปกป้องผู้โดยสารและลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ

ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง: ครอบคลุมผู้โดยสารทั้งด้านหน้าและด้านข้าง
ระบบป้องกันล้อล็อก (Anti-lock Braking System – ABS)
ระบบกระจายแรงเบรก (Dynamic Brake Control – DBC)
ระบบช่วยเบรกขณะเข้าโค้ง (Cornering Brake Control – CBC)
ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (Dynamic Stability Control – DSC): ช่วยให้รถไม่เสียการทรงตัวเมื่อต้องเข้าโค้งหรือหักหลบกะทันหัน
ระบบเตือนก่อนการชนด้านหน้า (Post-Crash Collision Warning – PC iBrake): ช่วยลดความรุนแรงของอุบัติเหตุ
ระบบช่วยเหลือการขับขี่ (Driving Assistant): เป็นชุดฟังก์ชันที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและความสะดวกสบาย เช่น ระบบเตือนการออกจากเลน ระบบเตือนจุดอับสายตา
จุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็ก ISOFIX: เพื่อ ความปลอดภัยรถยนต์ สูงสุดสำหรับสมาชิกตัวน้อย

ทั้งหมดนี้คือชุดเทคโนโลยีที่ทำให้ Countryman S ALL4 Hightrim MY2025 เป็นรถที่มอบ ความปลอดภัยรถยนต์ ที่เหนือกว่ามาตรฐาน ช่วยให้คุณและครอบครัวเดินทางได้อย่างอุ่นใจในทุกเส้นทาง

บทสรุป: MINI Countryman S ALL4 Hightrim MY2025 เหมาะกับใคร?

MINI Countryman S ALL4 Hightrim MY2025 สนนราคาอยู่ที่ 2,499,000 บาท ซึ่งเป็นราคาที่สะท้อนถึงการเป็น ครอสโอเวอร์หรู ที่มาพร้อม ออฟชั่นเต็ม และเทคโนโลยีล้ำสมัย

โดยสรุปแล้ว การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของ MINI Countryman S ALL4 Hightrim MY2025 เป็นการเดิมพันที่กล้าหาญของ MINI ที่จะก้าวออกจากกรอบเดิมๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดและเทรนด์ในยุค 2025
ดีไซน์ภายนอก ที่ล้ำสมัยและดูใหญ่โต อาจเป็นที่ถกเถียงสำหรับแฟน MINI ดั้งเดิม แต่สำหรับผู้ที่มองหา ครอสโอเวอร์พรีเมียม ที่มีสไตล์โดดเด่น ไม่ซ้ำใคร และพร้อมกับรูปลักษณ์ที่ทันสมัยแบบรถยนต์ไฟฟ้า นี่คือตัวเลือกที่น่าสนใจอย่างยิ่ง
ภายในห้องโดยสาร คือจุดแข็งสำคัญ ด้วยเทคโนโลยีล้ำยุค จอ OLED ทรงกลมอันเป็นเอกลักษณ์ พร้อมวัสดุคุณภาพสูง และพื้นที่ใช้สอยที่กว้างขวางขึ้นอย่างชัดเจน ทำให้เป็น รถยนต์อเนกประสงค์ ที่เหมาะกับการใช้งานในชีวิตประจำวันและเดินทางไกล
สมรรถนะการขับขี่ จากเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร TwinPower Turbo พร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ ALL4 และเกียร์ 7DCT มอบการตอบสนองที่เพียงพอและมั่นใจได้ แม้ช่วงล่างจะยังคงความเฟิร์มในแบบฉบับ MINI แต่ก็แลกมาด้วยความมั่นคงในการขับขี่ที่ดีเยี่ยม

MINI Countryman S ALL4 Hightrim MY2025 จึงไม่ใช่รถสำหรับทุกคน แต่เป็นรถสำหรับผู้ที่เปิดรับการเปลี่ยนแปลง ผู้ที่มองหา รถยนต์อเนกประสงค์ ที่ผสมผสานความหรูหรา เทคโนโลยี ความปลอดภัย และการใช้งานที่หลากหลายเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว หากคุณคือผู้ที่มองว่ารถยนต์ไม่จำเป็นต้อง “เล็ก” เสมอไป และพร้อมที่จะเปิดรับ “MINI” ในมิติใหม่ที่เติบโตและล้ำสมัยยิ่งขึ้น Countryman คันนี้คือคำตอบ

สำหรับผู้ที่ยังคงยึดมั่นในอารมณ์การขับขี่แบบ Go-Kart ดิบๆ ของ MINI ดั้งเดิม อาจจะต้องมองไปที่รุ่นอื่นที่เน้นประสิทธิภาพการขับขี่เป็นหลักอย่าง MINI John Cooper Works ที่ยังคงทำหน้าที่นั้นได้อย่างยอดเยี่ยม แต่สำหรับ Countryman S ALL4 Hightrim MY2025 มันคือการประกาศจุดยืนที่ชัดเจนว่า MINI พร้อมที่จะเติบโตไปพร้อมกับยุคสมัย ตอบโจทย์ชีวิตที่ใหญ่ขึ้น และยังคงไว้ซึ่งจิตวิญญาณแห่งความสนุกสนานในแบบของตัวเอง

เชิญสัมผัสประสบการณ์จริงด้วยตัวคุณเอง!

การอ่านบทวิเคราะห์จากผู้เชี่ยวชาญอาจทำให้คุณเห็นภาพรวม แต่ไม่มีอะไรจะดีไปกว่าการได้สัมผัสและขับขี่ MINI Countryman S ALL4 Hightrim MY2025 ด้วยตัวคุณเอง เชิญนัดหมายเพื่อ ทดลองขับ และสัมผัสกับความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญนี้ได้ที่โชว์รูม MINI ทั่วประเทศ เพื่อให้คุณได้พิสูจน์ว่า MINI คันใหม่นี้สามารถตอบโจทย์ทุกความต้องการของคุณได้อย่างไร ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของวิวัฒนาการครั้งใหม่นี้ แล้วคุณจะพบว่า “MINI” ไม่ได้จำกัดอยู่แค่เพียงขนาดอีกต่อไป.