บทวิจารณ์ภาพยนตร์ที่กำลังจะมาถึง
เช็กมาตรการรัฐ-สรุปสถานการณ์ต่างชาติซื้อคอนโดในไทย ไตรมาส 1 ปี 2568
อัปเดตล่าสุด 06 กรกฎาคม 2568 • ใช้เวลาอ่าน 3 นาทีexpats

ปัจจุบันปฏิเสธไม่ได้ว่ากำลังซื้อสำคัญส่วนหนึ่งในภาคอสังหาริมทรัพย์ของไทยคือ ชาวต่างชาติ ที่ยังคงมีความต้องการซื้อคอนโดในไทย
ลองมาดูว่าชาวต่างชาติ ชาติใดที่มีการโอนกรรมสิทธิ์คอนโดหรือห้องชุดมากที่สุด พร้อมเช็กมาตรการภาครัฐที่ต้องการดึงกำลังซื้อจากต่างชาติในการซื้อบ้าน-ซื้อคอนโดในไทย ว่ามีรายละเอียดอย่างไร
อ่านหัวข้อที่คุณสนใจ
สถานการณ์การโอนคอนโดของชาวต่างชาติ
จากรายงานของศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ หรือ REIC เผยภาพรวมการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดของชาวต่างชาติในไตรมาส 1 ปี 2568 พบว่า จำนวนการโอนห้องชุดจากชาวต่างชาติอยู่ที่ 3,919 หน่วย มีมูลค่ารวม 16,392 ล้านบาท และมีพื้นที่รวม 164,376 ตารางเมตร
โดยเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว พบว่า จำนวนหน่วยลดลง 0.5% มูลค่าลดลง 9.0% และพื้นที่ลดลง 5.0% สะท้อนถึงความชะลอตัวของตลาดในช่วงต้นปี
อย่างไรก็ตาม สัดส่วนการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดของชาวต่างชาติในตลาดกลับเพิ่มขึ้น เป็น 18.0% จากจำนวนทั้งหมด และ 29.3% ของมูลค่ารวม ซึ่งสูงขึ้นจาก 16.7% และ 28.6% ในปีที่แล้ว แสดงให้เห็นว่าตลาดของชาวต่างชาติยังคงมีบทบาทสำคัญ
ในเรื่องสัญชาติของผู้ซื้อ ชาวจีนยังคงมีสัดส่วนมากที่สุดที่ 37.8% ของจำนวนหน่วย และ 37.3% ของมูลค่า แต่ตัวเลขนี้ลดลงจากปีที่ผ่านมา เนื่องจากปัญหาภาพลักษณ์ด้านความปลอดภัยของประเทศไทยในสายตานักท่องเที่ยวจีน ส่งผลให้การเดินทางและการซื้ออสังหาริมทรัพย์ของชาวจีนลดลง
นอกจากนี้ สัญชาติอื่น ๆ ที่มีบทบาทในตลาด ได้แก่ ชาวเมียนมา 11.2% และรัสเซีย 7.3% ขณะที่ชาวอังกฤษ แม้ว่าจะมีจำนวนหน่วยไม่มาก แต่มีมูลค่าการโอนเฉลี่ยสูงที่สุดที่ 5.7 ล้านบาท และขนาดห้องเฉลี่ยใหญ่ที่สุดที่ 60.1 ตารางเมตร ซึ่งสะท้อนถึงกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูง
10 สัญชาติแรกที่ซื้อคอนโดมากที่สุดในช่วงไตรมาส 1 ปี 2568
ลำดับ
สัญชาติ
หน่วย
มูลค่า (ล้านบาท)
พื้นที่ (ตร.ม.)
มูลค่าเฉลี่ยต่อหน่วย (ล้านบาท)
พื้นที่เฉลี่ยต่อหน่วย (ตร.ม.)
1
จีน
1,481
6,117
54,932
4.1
37.1
2
เมียนมา
439
1,587
15,305
3.6
34.9
3
รัสเซีย
288
987
11,217
3.4
38.9
4
ไต้หวัน
197
910
8,059
4.6
40.9
5
ฝรั่งเศส
158
612
7,050
3.9
44.6
6
สหรัฐอเมริกา
147
820
7,748
5.6
52.7
7
สหราชอาณาจักร
131
744
7,869
5.7
60.1
8
เยอรมัน
115
407
5,244
3.6
45.6
9
สิงคโปร์
93
511
3,613
5.5
38.8
10
ออสเตรเลีย
61
288
3,501
4.7
57.4
สรุปสถานการณ์การโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้คนต่างชาติในไตรมาส 1 ปี 2568
1. จำนวนห้องและมูลค่า ในช่วงไตรมาส 1 ปี 2568 มีการโอนห้องชุดให้คนต่างชาติจำนวน 3,919 หน่วย ซึ่งลดลง 0.5% จากปีที่แล้ว มูลค่าการโอนรวมอยู่ที่ 16,392 ล้านบาท ลดลง 9.0% และพื้นที่รวม 164,376 ตารางเมตร ลดลง 5.0%
2. สัดส่วนการโอน การโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้คนต่างชาติคิดเป็น 18.0% ของจำนวนทั้งหมด เพิ่มขึ้นจาก 16.7% ในปีก่อน ส่วนมูลค่าของการโอนคิดเป็น 29.3% เพิ่มจาก 28.6%
3. ห้องชุดใหม่ vs มือสอง การโอนห้องชุดใหม่คิดเป็น 53% ขณะที่ห้องชุดมือสองคิดเป็น 47% โดยเปรียบเทียบกับไตรมาสก่อนพบว่า ลดลงในสัดส่วนของทั้งสองประเภท
4. ระดับราคา ห้องชุดที่คนต่างชาตินิยมโอนกรรมสิทธิ์มากที่สุดอยู่ในช่วงราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท จำนวน 2,130 หน่วย หรือคิดเป็น 54.4% ตามมาด้วยราคา 3.01-5.00 ล้านบาท จำนวน 895 หน่วย หรือคิดเป็น 22.8%
ขายคอนโด
ดูประกาศขายคอนโดในกรุงเทพฯ ราคาไม่เกิน 3 ล้าน
5. ขนาดห้องชุด ห้องชุดที่มีขนาดนิยมมากที่สุดคือขนาด 31-60 ตารางเมตร (1-2 ห้องนอน) จำนวน 1,797 หน่วย (45.9%) ขนาดห้องชุดไม่เกิน 30 ตารางเมตรมีจำนวน 1,579 หน่วย (40.3%)
6. ระดับราคาและขนาดเฉลี่ย ห้องชุดเฉลี่ยอยู่ที่ 41.9 ตารางเมตร ประมาณ 4.2 ล้านบาทต่อหน่วย ขณะที่สหราชอาณาจักรมีมูลค่าการโอนเฉลี่ยสูงที่สุดที่ 5.7 ล้านบาท
7. จังหวัดที่มีการโอนสูงสุด กรุงเทพมหานครและชลบุรีมีการโอนมากที่สุด โดยกรุงเทพฯ มี 1,695 หน่วย (43.3%) และชลบุรี 1,309 หน่วย (33.4%) รวมนับกันได้สูงถึง 76.7% ของการโอนทั้งหมดในประเทศ
โดยภาพรวมในช่วงไตรมาส 1 ปี 2568 สถานการณ์การโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดสำหรับคนต่างชาติแสดงให้เห็นถึงการลดลงจำนวนหน่วยและมูลค่าเมื่อเปรียบเทียบกับปีที่แล้ว

สรุปมาตรการเอื้อชาวต่างชาติซื้ออสังหาฯ ในไทย
1. มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านอสังหาริมทรัพย์
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ได้ทำหนังสือด่วนที่สุด ถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เรื่องมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านอสังหาริมทรัพย์ โดยมีเนื้อหาระบุว่า
ตามที่ได้ยืนยันมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2567 เรื่อง มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ผ่านภาคอสังหาริมทรัพย์ และการเตรียมการเพื่อรองรับการดำเนินการยกระดับประเทศไทยสู่ศูนย์กลางเมือง แห่งอุตสาหกรรมระดับโลก (Thailand Vision) ไปเพื่อดำเนินการ ความละเอียดแจ้งแล้ว นั้น
ล่าสุดในการประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2567 ที่ผ่านมา นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ได้เสนอว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติ (9 เมษายน 2567) เรื่อง มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านภาคอสังหาริมทรัพย์ โดยมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปศึกษามาตรการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องนั้น
เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในระดับมหภาค และดึงดูดนักลงทุนขนาดใหญ่ให้เข้ามาลงทุนในประเทศไทย โดยมีปัจจัยต่าง ๆ ที่จะส่งเสริมการเข้ามาทำงานของชาวต่างชาติที่มีศักยภาพ จึงขอให้ กระทรวงมหาดไทย ศึกษาความเป็นไปได้ ดังต่อไปนี้
1) การพิจารณาทบทวนการกำหนดระยะเวลาของทรัพย์อิงสิทธิตามพระราชบัญญัติทรัพย์อิงสิทธิ พ.ศ. 2562 โดยกำหนดให้ทรัพย์อิงสิทธิมีกำหนดเวลาได้ไม่เกิน 99 ปี
2) การพิจารณาทบทวนหลักเกณฑ์ และกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการให้สิทธิคนต่างด้าว สามารถถือกรรมสิทธิ์ในห้องชุด จากเดิมไม่เกิน 49% เป็นไม่เกิน 75%
โดยอาจกำหนดเงื่อนไขอื่นที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการของนิติบุคคลอาคารชุด เช่น การจำกัดสิทธิการออกเสียงของคนต่างด้าว และนิติบุคคลต่างด้าวที่ได้เข้ามาถือกรรมสิทธิ์ในภายหลังจากที่เกินอัตราส่วน 49%
ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องตราหรือแก้ไขปรับปรุงกฎหมายประการใดเพื่อรองรับการดำเนินการในเรื่องนี้ ให้กระทรวงมหาดไทย เร่งดำเนินการตามขั้นตอนให้แล้วเสร็จโดยเร็ว โดยให้ปฏิบัติตามบทบัญญัติของกฎหมาย ระเบียบ และหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัดด้วย และเสนอคณะรัฐมนตรีโดยเร็วต่อไป
2. มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนโดยการดึงดูดชาวต่างชาติที่มีศักยภาพสูงสู่ประเทศไทย
1) การออกวีซ่าประเภทผู้พำนักระยะยาว (Long-term resident visa)
เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2565 รัฐบาลได้เปิดตัววีซ่าประเภทใหม่ Long-Term Resident Visa: LTR Visa และมอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ บีโอไอ เป็นผู้รับผิดชอบดำเนินการ เพื่อขับเคลื่อน LTR Visa ให้เป็นเครื่องมือสำคัญในการดึงดูดกลุ่มนักลงทุน ผู้มีความมั่งคั่ง ผู้มีทักษะและเความเชี่ยวชาญให้เข้ามาพักนักในประเทศไทย
LTR Visa เป็นวีซ่าพำนักระยะยาวสำหรับชาวต่างชาติ โดยให้สิทธิพำนักในประเทศไทยได้ถึง 10 ปี พร้อมได้ใบอนุญาตทำงานควบคู่ไปด้วย และให้สิทธิประโยชน์ด้านภาษ่ี โดยลดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเหลือ 17% และให้สิทธิมีผู้ติดตามได้ 4 คน มีเป้าหมายถึงต่างชาติกลุ่มใหม่
ชาวต่างชาติ 4 กลุ่มที่สามารถสมัคร VTR Visa ประกอบด้วย
– ประชากรโลกผู้มีความมั่งคั่งสูง: ชาวต่างชาติที่ถือครองทรัพย์สินมูลค่ารวมไม่ต่ำกว่า 1 ล้านเหรียญสหรัฐ
– ผู้เกษียณอายุจากต่างประเทศ: ผู้เกษียณต่างชาติที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไปที่รับเงินบำนาญหรือมีรายได้ที่มั่นคง
– ผู้ที่ต้องการทำงานจากประเทศไทย: ชาวต่างชาติที่ทำงานจากประเทศไทยให้กับบริษัทในต่างประเทศที่มีผลประกอบการเป็นที่ยอมรับ
– ผู้มีทักษะเชี่ยวชาญพิเศษ: ผู้มีทักษะสูงหรือผู้เชี่ยวชาญพิเศษที่ปฏิบัติงานให้กับบริษัท หรือสถาบันอุดมศึกาาหรือสถาบันวิจัย หรือสถาบันฝึกอบรมเฉพาะทาง หรือหน่วยงานภาครัฐในประเทศไทย ทั้งนี้จะต้องเป็นการทำงานในกิจการที่อยู่ในอุตสาหกรรมเป้าหมาย

ต่างชาติซื้อคอนโด ซื้อบ้านในไทยได้
คุณรู้หรือไม่ ต่างชาติซื้อคอนโด ซื้อบ้านในไทยได้อย่างไรบ้าง ดูได้ที่นี่
2) มาตรการดึงต่างชาติ 4 กลุ่ม ซื้อที่ดินในไทย
มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนโดยการดึงดูดชาวต่างชาติที่มีศักยภาพสูงเข้าสู่ประเทศไทย จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการสร้างรายได้ การลงทุน และเพิ่มโอกาสการจ้างงานภายในประเทศ โดยมุ่งเน้นใน 4 กลุ่มเป้าหมายประกอบด้วย
– กลุ่มประชากรโลกผู้มีความมั่งคั่งสูง
– กลุ่มผู้เกษียณอายุจากต่างประเทศ
– กลุ่มที่ต้องการทำงานจากประเทศไทย
– กลุ่มผู้มีทักษะเชี่ยวชาญพิเศษ
สาระสำคัญในการที่กลุ่มคนต่างด้าวที่มีศักยภาพสูง 4 กลุ่ม สามารถครอบครองที่ดินได้มีดังนี้
– จำนวนเนื้อที่ที่ได้รับสิทธิ ไม่เกิน 1 ไร่ ตามมาตรา 96 ทวิ แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน ซึ่งต้องใช้ที่ดินนั้นเพื่อเป็นที่อยู่อาศัยสำหรับตนเอง
– ภายในเขตกรุงเทพมหานคร เขตเมืองพัทยา หรือเขตเทศบาล หรืออยู่ภายในบริเวณที่กำหนดเป็นเขตที่อยู่อาศัยตามกฎหมายว่าด้วยการผังเมือง
– ต้องมีจำนวนเงินลงทุนในธุรกิจหรือกิจการประเภทหนึ่งประเภทใด ไม่ต่ำกว่า 40 ล้านบาท และต้องดำรงการลงทุนไว้ไม่น้อยกว่า 3 ปี เช่น การซื้อพันธบัตรรัฐบาลไทย การลงทุนในกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน กองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น ที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายว่าด้วยทรัสต์เพื่อธุรกรรมในตลาดทุน (เพิ่มขึ้นใหม่จากกฎกระทรวงฯ พ.ศ. 2545)
– หากถอนการลงทุนในธุรกิจ หรือกิจการก่อนครบกำหนดเวลาการดำรงทุน ต้องแจ้งเป็นหนังสือให้พนักงานเจ้าหน้าที่ทราบภายใน 60 วัน นับแต่วันที่ถอนการลงทุน
– ระยะเวลาบังคับใช้กฎหมาย 5 ปี
ประกาศขายที่ดิน
รวมประกาศขายที่ดินในกรุงเทพฯ หลายระดับราคา และหลายทำเล
ทั้งนี้ ร่างกฎกระทรวงการได้มาซึ่งที่ดินเพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัยของคนต่างด้าว ตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนโดยการดึงดูดคนต่างด้าวที่มีศักยภาพสูงสู่ประเทศไทย พ.ศ. …. ได้เพิ่มเติมหลักการในส่วนประเภทการลงทุน และระยะเวลาการดำรงการลงทุน (จาก 5 ปี ลดเหลือ 3 ปี) แตกต่างไปจากกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการได้มาซึ่งที่ดินเพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัยของคนต่างด้าว พ.ศ. 2545 ที่มีผลใช้บังคับอยู่ในปัจจุบัน
สำหรับร่างกฎหมายฉบับเพิ่มเติมนี้ยังอยู่ในระหว่างการนำกลับไปทบทวนรายละเอียดอีกครั้ง หลังจากมีหลายฝ่ายกังวลว่าจะเอื้อต่อต่างชาติมากเกินไป จนส่งผลต่อคนไทยในอนาคต