10 สิ่งสำคัญที่ต้องทำทันทีเมื่อเกิดอุบัติเหตุรถยนต์ พร้อมขั้นตอนเคลมประกันที่ควรรู้
by admin

การประสบอุบัติเหตุบนท้องถนนเป็นสถานการณ์ที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น แต่เมื่อเหตุการณ์ไม่คาดฝันมาถึง การมีความรู้และสามารถรับมือได้อย่างถูกวิธีจะช่วยลดความสับสน ความเสียหาย และทำให้กระบวนการเคลมประกันเป็นไปอย่างราบรื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีประกันภัยรถยนต์ การทราบขั้นตอนที่ถูกต้องคือกุญแจสำคัญ
อันดับแรก เมื่อเกิดอุบัติเหตุสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ “ตั้งสติ” อย่าเพิ่งตื่นตกใจ พยายามควบคุมอารมณ์และประเมินสถานการณ์รอบตัวอย่างรวดเร็ว หากไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บรุนแรงและรถยังสามารถเคลื่อนย้ายได้ ให้พิจารณาเคลื่อนรถเข้าข้างทางเพื่อไม่ให้กีดขวางการจราจร และเตรียมข้อมูลสำคัญให้พร้อมเพื่อแจ้งเหตุแก่บริษัทประกันภัยรถยนต์ ข้อมูลที่จำเป็นได้แก่ ชื่อผู้ขับขี่ รายละเอียดรถยนต์ (ยี่ห้อ รุ่น สี ทะเบียน) ลักษณะการเกิดเหตุ และสถานที่เกิดเหตุที่ชัดเจน
ภาพเช็คลิสต์และขั้นตอนสำคัญในการรับมือกับอุบัติเหตุรถยนต์ เพื่อการจัดการและเคลมประกันอย่างถูกต้องและรวดเร็ว
จากนั้น ให้รีบติดต่อศูนย์รับแจ้งเหตุของบริษัทประกันภัยทันที เพื่อให้เจ้าหน้าที่มาตรวจสอบอุบัติเหตุ ณ จุดเกิดเหตุ การแจ้งเหตุทันทีจะช่วยให้การจัดการง่ายขึ้น ไม่ว่าจะมีคู่กรณีหรือไม่ก็ตาม หากสถานที่เกิดเหตุมีการเปลี่ยนแปลง เช่น เคลื่อนย้ายรถออกจากจุดชนเดิม ควรแจ้งเจ้าหน้าที่ให้ทราบด้วย
ในกรณีที่คู่กรณีเฉี่ยวชนแล้วหลบหนี สิ่งที่ต้องทำคือพยายามจดจำรายละเอียดรถคู่กรณีให้ได้มากที่สุด เช่น สี ยี่ห้อ รุ่น และหมายเลขทะเบียน หากทำได้ควรรีบใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายภาพรถคู่กรณี หรือร่องรอยความเสียหายที่เกิดขึ้น รวมถึงสภาพแวดล้อม ณ จุดเกิดเหตุ เพื่อใช้เป็นหลักฐานประกอบการ แจ้งเคลมประกัน และแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
หากเป็นอุบัติเหตุที่มีรถเกี่ยวข้องหลายคัน และคู่กรณีบางรายขอแยกย้ายก่อน ให้แลกเปลี่ยนข้อมูลสำคัญของผู้ขับขี่และรถคู่กรณีแต่ละคันไว้ รวมถึงเบอร์โทรศัพท์ติดต่อ เพื่อความสะดวกในการติดตามและประสานงานภายหลัง
ประเด็นสำคัญเมื่อมีผู้ได้รับบาดเจ็บ การช่วยเหลือกู้ภัยคือความสำคัญสูงสุด ให้รีบนำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด จากนั้นจึงแจ้งบริษัทประกันภัย และแสดงหลักฐานประกัน พ.ร.บ. (ประกันภัยภาคบังคับ) ให้กับเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล ท่องไว้เสมอว่า “อย่าตกลงค่าเสียหายกับคู่กรณีด้วยตนเอง” โดยไม่มีเจ้าหน้าที่จาก บริษัทประกันภัย เข้าร่วมเจรจา ยิ่งหากกรณีถึงขั้นสถานีตำรวจ ควรให้เจ้าหน้าที่ประกันภัยเข้าร่วมแสดงตัวด้วย
ในสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด หากมีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ ให้รีบติดต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจและแจ้งบริษัทประกันภัยรถยนต์โดยทันที ผู้ขับขี่จะต้องรับผิดชอบทางอาญา ส่วนในทางแพ่ง บริษัทประกันภัยจะเข้ามาร่วมเจรจาและให้คำปรึกษา พร้อมรับผิดชอบค่าเสียหายตามเงื่อนไขในกรมธรรม์ การปรึกษาเจ้าหน้าที่ประกันภัยก่อนการตกลงค่าเสียหายกับคู่กรณีเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง
สิ่งที่ไม่ควรทำเด็ดขาดคือ การแยกรถออกจากกันก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะขีดเส้นแสดงจุดที่รถชน หรือจนกว่าเจ้าหน้าที่บริษัทประกันภัยจะมาถึงที่เกิดเหตุ ห้ามตกลงค่าเสียหายใดๆ และที่สำคัญ อย่ายอมรับผิด หากยังไม่แน่ใจว่าฝ่ายใดเป็นฝ่ายผิด ควรยืนยันที่จะรอเจ้าหน้าที่ประกันภัยมาตรวจสอบ หากคู่กรณีมีท่าทีพิรุธหรือพยายามจะหลบหนี ให้รีบจดรายละเอียดของคู่กรณีและรถยนต์ให้ได้มากที่สุด ก่อนที่เจ้าหน้าที่จากบริษัทหรือตำรวจจะมาถึง
ในกรณีที่คุณเป็นฝ่ายถูก และคู่กรณียอมรับผิด ให้คู่กรณีลงชื่อในเอกสารยอมรับผิดก่อน จึงค่อยเคลื่อนย้ายรถออกจากจุดเกิดเหตุเพื่อไม่ให้กีดขวางการจราจร อย่าลืมจดข้อมูลทะเบียนรถคู่กรณี ชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ ของผู้ขับขี่และเจ้าของรถ รวมถึงชื่อและเบอร์โทรพยานในที่เกิดเหตุ (ถ้ามี) ทั้งหมดนี้เพื่อใช้ประกอบการ แจ้งเคลมประกัน และการตรวจสอบความเสียหาย
กลับกัน หากคุณเป็นฝ่ายผิดแบบเต็มๆ ก็ให้เขียนชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ ของคุณให้แก่คู่กรณี เคลื่อนย้ายรถเพื่อไม่ให้กีดขวางการจราจร และรีบแจ้ง บริษัทประกันภัย ทันที เพื่อดำเนินการตรวจสอบอุบัติเหตุและประเมินสภาพความเสียหายต่อไป
สำหรับกรณีที่ความเสียหายเกิดขึ้นเฉพาะตัวรถและคู่กรณีทั้งสองฝ่ายทำ ประกันภัยรถยนต์ประเภท 1 ซึ่งเข้าเงื่อนไข “Knock for Knock” (รถเก๋ง, รถบรรทุกไม่เกิน 3 ตัน, รถตู้ไม่เกิน 15 ที่นั่ง) คู่กรณีสามารถตกลงฝ่ายถูก-ฝ่ายผิดกันเอง ณ จุดเกิดเหตุได้ โดยกรอกรายละเอียดลงในเอกสารสำคัญที่ได้รับพร้อมกรมธรรม์ ลงลายมือชื่อ และแลกเปลี่ยนเอกสารกัน จากนั้นให้นำเอกสารไปติดต่อบริษัทประกันภัยของตนเองโดยเร็วที่สุด ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ คปภ. อาจมีประโยชน์ในการทำความเข้าใจสิทธิ์ของคุณ
สุดท้าย หากอุบัติเหตุทำให้รถของคุณไม่สามารถขับเคลื่อนต่อไปได้ หรือคุณไม่มั่นใจว่าจะขับไปถึงที่หมายโดยไม่เกิดความเสียหายเพิ่มขึ้น ควรแจ้งพนักงานเคลมของบริษัทประกันภัย เพื่อขอใช้บริการช่วยเหลือฉุกเฉินในการลากรถเข้าอู่ซ่อมหรือศูนย์บริการที่เหมาะสม
การเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ไม่คาดฝันเป็นสิ่งสำคัญสูงสุด การมีความคุ้มครองประกันภัยรถยนต์ที่เหมาะสมจะช่วยให้คุณอุ่นใจได้ และทราบแนวทางปฏิบัติที่ถูกต้องเมื่อต้องเผชิญหน้ากับอุบัติเหตุ การเลือกแผนประกันที่ตอบโจทย์ความต้องการและไลฟ์สไตล์การขับขี่ของคุณ จะมอบความคุ้มครองที่คุ้มค่าและบริการที่เชื่อถือได้ในยามฉุกเฉิน
เลือกประกันรถยนต์มือสองให้คุ้มค่า ครอบคลุมทุกความเสี่ยง
Next Postซ่อมห้าง vs ซ่อมอู่: ทางเลือกการซ่อมรถเมื่อเคลมประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 แบบไหนดีที่สุด?

Leave a Reply
Your email address will not be publishe