สัญญา
อัปเดตล่าสุด 22 มิถุนายน 2568 • ใช้เวลาอ่าน 2 นาทีซื้อบ้านหลังแรก

สัญญาจะซื้อจะขาย เป็นเอกสารสำคัญในการซื้อขาย โดยในบทความนี้จะโฟกัสไปที่คอนโดมิเนียมหรือห้องชุด ซึ่งในตอนหนึ่งของการซื้อขาย เมื่อผู้ซื้อตกลงปลงใจที่จะซื้อห้องชุดสักแห่งหนึ่งแล้ว ก็จะแจ้งความประสงค์ต้องการจะซื้อห้องชุดดังกล่าวไปยังเจ้าของห้องชุดนั้น
แต่เพียงการบอกกล่าวด้วยวาจานั้นไม่ทำให้เกิดผลผูกพันทางกฎหมาย ถึงขั้นที่ทำให้ทั้งสองฝ่ายต้องรักษาสัญญาต่อกันที่จะไม่ขายคอนโดนั้นให้กับคนอื่น หรือจะมีการซื้อคอนโดนั้นภายในกำหนดเวลาที่กล่าวไว้ จึงต้องมีการทำสัญญาจะซื้อจะขายกันขึ้นเพื่อให้สามารถบังคับใช้ตามกฎหมายได้
มาทำความรู้จักหนังสือสัญญาจะซื้อจะขายคอนโดให้มากขึ้น
อ่านหัวข้อที่คุณสนใจ
- สัญญาจะซื้อจะขายคอนโด คืออะไร
- ทำสัญญาจะซื้อจะขายแล้วผิดสัญญาได้ไหม มีผลอย่างไร
- ซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ควรมีการวางมัดจำเท่าไหร่
- สัญญาจะซื้อจะขายควรกำหนดระยะเวลาเท่าไหร่
- สัญญาจะซื้อจะขายมีส่วนประกอบสำคัญอะไรบ้าง
สัญญาจะซื้อจะขายคอนโด คืออะไร และมีจุดประสงค์ใด
สัญญาจะซื้อจะขาย เป็นสัญญาที่ทำขึ้นเพื่อให้เกิดนิติสัมพันธ์ระหว่างผู้จะซื้อคอนโดและผู้จะขายคอนโด เพื่อเป็นการแสดงเจตนาของฝ่ายผู้จะซื้อว่าต้องการจะซื้อคอนโดของผู้จะขาย
พร้อมวางเงินมัดจำไว้เป็นประกันว่าจะมีการทำสัญญาซื้อขายระหว่างกัน และเกิดการโอนกรรมสิทธิ์ขึ้นภายในช่วงระยะเวลาที่กำหนด ขณะเดียวกันก็แสดงเจตนาของผู้จะขายที่จะไม่ขายคอนโดนั้นให้บุคคลอื่นนอกจากผู้จะซื้อในช่วงเวลาที่กำหนดไว้ในสัญญาฯ

สัญญาซื้อขาย-สัญญาจะซื้อจะขาย ต่างกันอย่างไร
หนังสือสัญญาซื้อขาย และสัญญาจะซื้อจะขาย สัญญา 2 แบบ แตกต่างกันอย่างไร
ทำสัญญาจะซื้อจะขายแล้วผิดสัญญาได้ไหม มีผลอย่างไร
หากพ้นจากช่วงเวลาดังกล่าวไปแล้วไม่มีการโอนกรรมสิทธิ์เกิดขึ้น เพราะผู้จะซื้อเปลี่ยนใจไม่ซื้อคอนโด ถือว่าผู้จะซื้อเป็นฝ่ายผิดสัญญาและให้ฝ่ายผู้จะขายริบเงินมัดจำนั้นได้ ส่วนฝ่ายผู้จะขายนั้นมีหน้าที่ไม่ขายอสังหาริมทรัพย์นั้นให้กับผู้จะซื้อรายอื่นในช่วงระยะเวลาดังกล่าว
ในกรณีที่ผู้จะขายผิดสัญญาผู้จะซื้อไม่เพียงแต่เรียกเงินมัดจำคืนเท่านั้น แต่สามารถฟ้องร้องให้ขายอสังหาริมทรัพย์นั้นให้แก่ตนได้ รวมไปถึงสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายอื่น ๆ
แต่ถ้ามีการซื้อขายกันเป็นไปตามสัญญาจะซื้อจะขายแล้วก็ให้นำเงินมัดจำนี้ไปหักออกจากราคาขาย ผู้จะซื้อจะจ่ายเพิ่มเฉพาะส่วนที่เหลือหลังหักเงินมัดจำออกไปแล้วเท่านั้น
ซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ควรมีการวางมัดจำเท่าไหร่
กรณีที่เป็นอสังหาริมทรัพย์มือสองนั้นโดยทั่วไปแล้วจะวางเงินมัดจำอยู่ในช่วง 10,000-20,000 บาท หรือบางทีก็คิดในอัตรา 5-10% จากราคาขาย แต่ถ้าเป็นอสังหาริมทรัพย์มือหนึ่งมัดจำในที่นี้คือเงินจองอาจจะเก็บเพียง 1-5% ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของแต่ละโครงการ
ทั้งนี้ เงินมัดจำจะมีจำนวนมากน้อยเพียงใดจะขึ้นอยู่กับการตกลงระหว่างผู้จะซื้อและผู้จะขายเป็นหลัก
สัญญาจะซื้อจะขาย ควรกำหนดระยะเวลาเท่าไหร่
โดยทั่วไปแล้วจะกำหนดระยะเวลาให้คู่สัญญาทำสัญญาซื้อขายโอนกรรมสิทธิ์กัน พร้อมทั้งชำระเงินในส่วนที่เหลือจากมัดจำ ในช่วงเวลา 1-3 เดือนนับจากทำสัญญาจะซื้อจะขาย ซึ่งเป็นระยะเวลาที่มากพอที่ฝ่ายผู้จะซื้อจะสามารถติดต่อสถาบันการเงินเพื่อจัดหาสินเชื่อต่าง ๆ ได้

ประเภทของการกู้เงิน
กู้เงิน 5 ประเภท สำหรับมือใหม่หัดกู้ มีอะไรบ้างเช็กได้ที่นี่
สัญญาจะซื้อจะขาย มีส่วนประกอบสำคัญอะไรบ้าง
หนังสือสัญญาจะซื้อจะขายคอนโดนั้นจะประกอบไปด้วย 10 ส่วน ได้แก่
ส่วนที่ 1 รายละเอียดการจัดทำสัญญา
ส่วนนี้จะปรากฏเป็นส่วนแรกของสัญญาจะซื้อจะขาย เพื่อบันทึกข้อมูลวันเวลาที่มีการทำสัญญาขึ้น รวมไปถึงสถานที่ที่มีการจัดทำสัญญาฉบับนี้ ถ้าหากไม่มีการกำหนดเวลาเริ่มต้นที่ให้สัญญามีผลบังคับใช้ ก็จะถือว่าสัญญามีผลนับตั้งแต่วันที่มีการทำสัญญาขึ้นซึ่งก็คือวันที่ซึ่งปรากฏอยู่ในส่วนที่ 1 นี้
ส่วนที่ 2 รายละเอียดของคู่สัญญา
คู่สัญญาของสัญญาจะซื้อจะขายในกรณีที่เป็นการซื้อขายกันโดยตรงนั้นจะประกอบไปด้วย 2 ฝ่าย ฝ่ายหนึ่งคือผู้จะซื้อ และอีกฝ่ายคือผู้จะขาย ในส่วนนี้จะระบุข้อมูลที่แสดงตัวตนของคู่สัญญาทั้งสองฝ่าย ตั้งแต่ชื่อ-นามสกุล อายุ และที่อยู่
โดยจะใช้รายละเอียดตามที่แสดงบนบัตรประชาชน โดยจะใช้สำเนาบัตรประชาชนเป็นเอกสารแนบท้ายของสัญญาจะซื้อจะขาย
ส่วนที่ 3 รายละเอียดอสังหาริมทรัพย์
สัญญาจะซื้อจะขายในส่วนนี้จะแสดงรายละเอียดของอสังหาริมทรัพย์ที่จะซื้อจะขาย สำหรับห้องชุดนั้นจะระบุถึงรายละเอียดของห้องชุดได้แก่ ชื่อโครงการ, ชื่ออาคารที่ห้องชุดตั้งอยู่, ชั้นที่ห้องชุดตั้งอยู่, เลขที่ของห้องชุด, เนื้อที่ห้อง, ความสูง, ความยาว, ความกว้างของห้องชุด พร้อมแนบแผนผังแสดงที่ตั้งบนชั้นของอาคารและแบบแปลนภายในของห้องชุด
นอกจากนั้นยังต้องระบุรายละเอียดของอาคารที่ห้องชุดนั้นตั้งอยู่ ได้แก่ หมายเลขโฉนดที่ดิน, เลขที่ดิน, ตำบล, อำเภอ และจังหวัดซึ่งที่ดินตั้งอยู่ โดยรายละเอียดเกือบทั้งหมดจะปรากฏอยู่แล้วบนหนังสือแสดงกรรมสิทธิ์ห้องชุด (อ.ช. 2)

คอนโดไม่ตรงกับสัญญาทำอย่างไร
คอนโดไม่ตรงกับสัญญาจะซื้อจะขายหรือไม่ตรงกับโฆษณาทำอย่างไร
ส่วนที่ 4 ราคาขายและรายละเอียดการชำระเงิน
ในส่วนนี้จะระบุว่าคู่สัญญาทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะซื้อจะขายห้องชุดในราคาเท่าไร โดยมีการระบุจำนวนเงินเป็นตัวเลขและตัวอักษร พร้อมกันนั้นก็มีการแจกแจงอย่างชัดเจนว่าในราคาที่จะซื้อจะขายนี้มีส่วนที่แบ่งออกมาเพื่อเป็นมัดจำกี่บาท
วิธีการชำระเงินเป็นการชำระด้วยเงินสด หรือถ้าชำระด้วยเช็คธนาคารก็ให้ระบุธนาคาร, สาขา, เลขที่เช็ค, วันที่และจำนวนเงินที่สั่งจ่าย และระบุถึงจำนวนเงินส่วนที่เหลือที่จะให้มีการชำระในวันทำสัญญาซื้อขายหรือโอนกรรมสิทธิ์
ส่วนที่ 5 รายละเอียดการจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์
ใจความสำคัญของส่วนนี้คือการระบุวัน ซึ่งจะให้มีการทำสัญญาซื้อขายและจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ขึ้น ซึ่งอาจจะกำหนดเป็นวันที่แน่นอน หรือจะกำหนดเป็นจำนวนวันนับจากที่มีการทำสัญญาจะซื้อจะขายกันก็ได้
แต่จะต้องมีการกำหนดวันที่สามารถรู้ได้แน่ชัดว่าจะต้องมีการทำสัญญาซื้อขายกันเมื่อใด ซึ่งในส่วนนี้ถือเป็นสาระสำคัญของสัญญาจะซื้อจะขาย
นอกจากนี้ก็จะมีการระบุว่าให้ทำสัญญาซื้อขายกันที่สำนักงานที่ดินแห่งไหนอย่างชัดเจน อีกทั้งมีการกล่าวถึงเรื่องค่าใช้จ่ายในการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ เช่น ค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์, ค่าอากร, ค่าภาษีธุรกิจเฉพาะ, ค่านายหน้า, ภาษีหัก ณ ที่จ่าย และภาษีเงินได้
โดยกำหนดอย่างชัดเจนว่าฝ่ายผู้จะซื้อจะต้องรับผิดชอบในส่วนบ้างและรับผิดชอบเท่าไร และผู้จะขายจะรับผิดชอบส่วนใดและจำนวนเท่าใด ซึ่งตรงนี้ต้องกำหนดให้ชัดเจนครอบคลุมค่าใช้จ่ายทุกอย่าง
เพื่อที่ว่าเมื่อถึงวันที่ทำหนังสือสัญญาซื้อขายกันจะได้ไม่ต้องมีการตกลงอะไรกันอีก ซึ่งเสี่ยงที่จะไม่สามารถตกลงกันได้ในภายหลัง
ส่วนที่ 6 รายละเอียดการส่งมอบห้องชุด
ในส่วนนี้จะระบุว่าผู้จะขายจะส่งมอบห้องชุดให้กับผู้จะซื้อภายในระยะเวลาเท่าไร หลังจากมีการจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ และก่อนจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์จะเปิดโอกาสให้ผู้จะซื้อเข้าตรวจสอบห้องชุดได้เมื่อไร
ถ้าตรวจสอบแล้วพบว่าถูกต้องตรงตามรายละเอียดที่ระบุในสัญญาจะซื้อจะขาย ก็จะดำเนินการจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ต่อไป
ส่วนที่ 7 การโอนสิทธิและคำรับรองของผู้จะขาย
บางกรณีจะมีการกำหนดจากผู้จะขายเกี่ยวกับการโอนสิทธิของผู้จะซื้อไปยังบุคคลอื่น โดยผู้จะขายสามารถระบุในสัญญาจะซื้อจะขายบังคับไม่ให้ผู้จะซื้อโอนสิทธิไปยังคนอื่นได้ เว้นแต่จะได้รับคำยินยอมเป็นหนังสือจากผู้จะขาย
นอกจากนี้บางรายยังระบุเพิ่มเติมไปด้วยว่าถ้าผู้จะซื้อต้องการโอนสิทธิไปยังบุคคลอื่นจะต้องเสียค่าธรรมเนียมในการโอนสิทธิให้แก่ผู้จะขายในอัตราครั้งละกี่บาท และผู้ที่รับโอนสิทธิก็จะต้องอยู่ภายใต้ข้อตกลงของสัญญาฯ นี้เช่นกัน
ส่วนคำรับรองของผู้จะขายนั้นเป็นการเรียกร้องจากผู้จะซื้อให้ผู้จะขายรับรองว่าห้องชุดที่จะซื้อจะขายนั้นไม่มีภาระผูกพันใด ๆ อยู่ รวมถึงบังคับผู้จะขายว่าจะต้องไม่นำห้องชุดไปก่อให้เกิดภาระผู้พันใด ๆ เพิ่มขึ้นอีกนับแต่ได้ทำสัญญาจะซื้อจะขายกัน
ส่วนที่ 8 การผิดสัญญาและการระงับสัญญา
ในส่วนนี้จะกล่าวถึงการบังคับใช้ของสัญญาจะซื้อจะขายว่าจะเกิดผลต่อคู่สัญญาอย่างไรเมื่อฝ่ายหนึ่งผิดสัญญา โดยจะแบ่งการผิดสัญญาออกเป็น 2 กรณี
– กรณีที่ 1 เป็นการผิดสัญญาโดยฝ่ายผู้จะซื้อ ถ้าหากผู้จะซื้อผิดสัญญาไม่ไปจดทะเบียนรับโอนกรรมสิทธิ์และชำระเงินส่วนที่เหลือ ในกรณีนี้สัญญาฯ ให้ผู้จะขายริบเงินมัดจำที่วางไว้ตอนทำสัญญาจะซื้อจะขายทั้งหมดได้
– กรณีที่ 2 ที่ผู้จะขายผิดสัญญาไม่ไปจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้แก่ผู้จะซื้อ สัญญาฯ ให้สิทธิผู้จะซื้อสามารถฟ้องร้องบังคับให้ผู้จะขายปฏิบัติตามสัญญาฯ ได้ รวมไปถึงมีสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายต่าง ๆ
ส่วนที่ 9 ข้อตกลงและเงื่อนไขอื่น ๆ
ข้อตกลงเพิ่มเติมที่คู่สัญญาตกลงกันไว้ล่วงหน้าเพื่อเป็นทางออกในกรณีที่มีปัญหาเกิดขึ้น เช่น กรณีที่ต้องมีการชำระเงินหรือคืนเงินล่าช้าให้คู่สัญญามีสิทธิคิดดอกเบี้ยต่อกัน โดยกำหนดอัตราดอกเบี้ยที่จะใช้คำนวณและกำหนดให้เริ่มคิดดอกเบี้ยนับแต่วันที่ผิดนัด
กรณีที่การเลื่อนหรือผ่อนผันเวลานั้นกระทบต่อสิทธิของแต่ละฝ่ายอย่างไรบ้าง และถ้ามีการทวงถามหรือการส่งเอกสารใด ๆ จะให้ส่งไปยังที่ใด โดยมากกำหนดให้เป็นการส่งไปรษณีย์แบบลงทะเบียนไปยังที่อยู่ตามที่ระบุในส่วนแรกของสัญญาฯ และถือว่าผู้รับเอกสารรับรู้เมื่อมีการลงชื่อรับจดหมายดังกล่าวแล้ว เป็นต้น
ส่วนที่ 10 การลงชื่อของคู่สัญญาและพยาน
หลังจากที่คู่สัญญารับทราบและเข้าใจข้อความในสัญญาฯ ตลอดครบถ้วนดีแล้ว ในส่วนนี้คือส่วนสำคัญที่ทำให้เกิดการผูกนิติสัมพันธ์กันขึ้นด้วยการแสดงเจตนาให้สัญญา มีผลบังคับใช้ระหว่างคู่สัญญา
ด้วยการลงชื่อของผู้จะซื้อและผู้จะขายลงในสัญญา พร้อมทั้งพยานอีกฝ่ายละ 1 คนร่วมลงชื่อรับทราบ โดยสัญญาจะซื้อจะขายจะทำขึ้น 2 ฉบับและมีข้อความถูกต้องตรงกัน มอบให้คู่สัญญาเก็บไว้ฝ่ายละ 1 ฉบับ

รวมหนังสือสัญญา
รวมหนังสือสัญญาซื้อขายบ้าน-คอนโด สัญญาเช่า และสัญญาก่อสร้าง
สรุปรายละเอียดของสัญญาจะซื้อจะขายห้องชุด
องค์ประกอบของสัญญา | รายละเอียด |
รายละเอียดการจัดทำสัญญา | วัน-เวลาที่มีการทำสัญญา |
รายละเอียดของคู่สัญญา | ชื่อ-นามสกุล อายุ ที่อยู่ในบัตรประชาชน |
รายละเอียดอสังหาริมทรัพย์ | รายละเอียดบนหนังสือแสดงกรรมสิทธิ์ |
ราคาขาย-รายละเอียดการชำระเงิน | ตกลงที่จะซื้อจะขายห้องชุดในราคาเท่าไหร่ |
รายละเอียดการจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ | วันที่ในการสัญญาซื้อขาย-วันโอนกรรมสิทธิ์ |
รายละเอียดการส่งมอบห้องชุด | ระยะเวลาในการส่งมอบห้องชุด |
การโอนสิทธิและคำรับรองของผู้จะขาย | ระบุในสัญญาไม่ให้ผู้จะซื้อโอนสิทธิไปยังบุคคลอื่น |
การผิดสัญญาและการระงับสัญญา | ระบุเงื่อนไขในการผิดสัญญาของผู้จะซื้อ-ผู้จะขาย |
ข้อตกลงและเงื่อนไขอื่น ๆ | สัญญาตกลงล่วงหน้าเพื่อหาทางออกในกรณีที่มีปัญหา |
การลงชื่อของคู่สัญญาและพยาน | ลงชื่อผู้จะซื้อและผู้จะขาย พร้อมพยานอีกฝ่ายละ 1 คน |
เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย กิตติคม พจนี Content Writer ประจำ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ kittikom@ddproperty.com
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นข้อมูลทั่วไปเท่านั้น DDproperty by PropertyGuru ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของบริษัท ออลพร็อพเพอร์ตี้ มีเดีย จำกัด ไม่สามารถรับรองหรือรับประกันเกี่ยวกับข้อมูล รวมทั้งไม่สามารถรับรองหรือรับประกันใด ๆ เกี่ยวกับความเหมาะสม สำหรับวัตถุประสงค์เฉพาะใด ๆ ของข้อมูล ตามขอบเขตสูงสุดที่กฎหมายอนุญาต แม้ว่าเราได้พยายามอย่างเต็มที่ เพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลที่ให้ไว้ในบทความนี้ถูกต้อง เชื่อถือได้ และครบถ้วน ณ เวลาที่เขียน แต่ข้อมูลที่ให้ไว้ในบทความนี้ไม่ควรนำไปใช้ในการตัดสินใจทางการเงิน, การลงทุนอสังหาริมทรัพย์ หรือทางกฎหมายทันที ผู้อ่านไม่ควรใช้ข้อมูลในบทความ แทนคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการฝึกอบรมซึ่งสามารถพิจารณาข้อเท็จจริงและสถานการณ์ส่วนตัวของคุณได้ ทั้งนี้ เราไม่สามารถรับผิดชอบใด ๆ หากคุณเลือกที่จะนำข้อมูลไปใช้เพื่อประกอบการตัดสินใจ
แชร์บทความนี้
ดูบทความอื่นที่เกี่ยวข้องกับแท็กด้านล่างนี้
- การโอนที่ดิน
- ขายคอนโด
- ซื้อคอนโด
- นายหน้า
- สัญญาซื้อขาย
- สำนักงานที่ดิน
- อสังหาริมทรัพย์
- โฉนด
- โฉนดที่ดิน
- โอนที่ดิน
บทความยอดนิยม
1
ฤกษ์ดีกรกฎาคม 2568 วันดีปี 2568 ขึ้นบ้านใหม่ วันไหนดี เสริมสิริมงคล
2
แผนที่รถไฟฟ้า BTS-MRT ฉบับสมบูรณ์ อัปเดตเส้นทาง-ราคา-เวลา ปี 2568
3
อัปเดต! ดอกเบี้ยบ้าน 2568 ทุกธนาคาร
4
ย้ายทะเบียนบ้าน 2568 ต้องทำอย่างไร รู้ขั้นตอนและเอกสารที่ต้องเตรียม
5
ดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์-ฝากประจำของแต่ละธนาคาร เดือนกรกฎาคม 2568
ดูบทความเพิ่มเติม
06 กรกฎ