จอดรถหน้าบ้านตัวเอง ผิดกฎหมายหรือไม่? ไขข้อข้องใจกฎหมายที่จอดรถและวิธีหลีกเลี่ยงข้อพิพาท

June 13, 2025

ภาพประกอบแสดงการจอดรถยนต์บนถนนหน้าบ้าน พร้อมคำถามเรื่องกฎหมายที่จอดรถหน้าบ้านตนเองและประกันรถยนต์

Meta Description: รู้กฎหมายที่จอดรถหน้าบ้านตัวเองและหน้าบ้านผู้อื่น จอดแบบไหนไม่ผิด ลดปัญหาข้อพิพาท พร้อมทำความเข้าใจเรื่องประกันรถยนต์เมื่อถูกชนในที่ห้ามจอด คุ้มครองอย่างไรบ้าง อ่านเลย!

ปัญหาเรื่องการจอดรถนับเป็นเรื่องที่สร้างความกังวลใจสำหรับผู้ใช้รถใช้ถนนและเจ้าของบ้านเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในเขตชุมชนหรือหมู่บ้านจัดสรร กรณีพิพาทเกี่ยวกับการจอดรถขวางทางเข้า-ออก หรือจอดในพื้นที่ที่ไม่เหมาะสม มักปรากฏเป็นข่าวอยู่เสมอ หลายคนจึงเกิดคำถามว่า การจอดรถหน้าบ้านของตัวเองนั้น ผิดกฎหมายหรือไม่ และมีข้อควรรู้อื่น ๆ เกี่ยวกับกฎหมายที่จอดรถอย่างไรบ้าง เพื่อให้เข้าใจและปฏิบัติตนได้อย่างถูกต้อง

การจอดรถหน้าบ้านตัวเอง ผิดกฎหมายหรือไม่?

ตามหลักกฎหมายจราจร การจอดรถที่ถูกต้องควรอยู่ในพื้นที่ส่วนบุคคลที่มีรั้วรอบขอบชิด ซึ่งเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้เป็นเจ้าของรถยนต์เอง การนำรถไปจอดบนทางสาธารณะ ไม่ว่าจะเป็นถนนในหมู่บ้านจัดสรร หรือพื้นที่หน้าบ้านที่ติดกับถนน ถือเป็นการใช้พื้นที่ที่ไม่ใช่กรรมสิทธิ์ส่วนตัว และอาจขัดต่อพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 โดยเฉพาะมาตรา 55 ที่ห้ามมิให้ผู้ขับขี่หยุดรถตรงปากทางเข้าออกของอาคารหรือทางเดินรถ แม้จะเป็นหน้าบ้านตัวเอง แต่หากการจอดนั้นก่อให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญแก่ผู้อื่น เช่น ทำให้การสัญจรลำบาก หรือไม่สามารถนำรถเข้า-ออกได้ ก็ถือว่ามีความผิดได้

บทลงโทษหากฝ่าฝืนกฎหมายจอดรถหน้าบ้าน

หากการจอดรถบนทางสาธารณะหน้าบ้านของตนเองเป็นการกีดขวางทางเข้าออกหรือสร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับผู้อื่น ผู้กระทำผิดอาจต้องระวางโทษปรับตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. 2522 ไม่เกิน 500 บาท นอกจากนี้ ยังอาจมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 397 วรรคหนึ่ง ฐานก่อความเดือดร้อนรำคาญ ซึ่งมีโทษปรับสูงสุดไม่เกิน 5,000 บาท เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาและบทลงโทษดังกล่าว จึงควรงดเว้นการจอดรถในพื้นที่สาธารณะ แม้จะอ้างว่าเป็นพื้นที่หน้าบ้านตัวเองก็ตาม

พื้นที่หน้าบ้าน ตามกฎหมายเป็นของใคร?

ข้อเท็จจริงสำคัญที่หลายคนอาจเข้าใจผิด คือ พื้นที่ถนนหรือทางเท้าที่อยู่ติดกับแนวรั้วหน้าบ้านในหมู่บ้านจัดสรรส่วนใหญ่ ไม่ได้เป็นกรรมสิทธิ์ของเจ้าของบ้านแต่ละหลัง แต่เป็นพื้นที่ส่วนกลางของโครงการ หรือเป็นทางสาธารณะ ลูกบ้านรายอื่น ๆ เพียงอนุญาตให้ใช้ประโยชน์ได้บางส่วน โดยมีข้อแม้ว่าการใช้พื้นที่นั้นต้องไม่ผิดกฎหมายและไม่สร้างความเดือดร้อน การต่อเติมสิ่งปลูกสร้างถาวร เช่น การทำที่จอดรถบนถนนหน้าบ้าน ย่อมถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายและต้องถูกรื้อถอนหากมีการร้องเรียนเกิดขึ้น ที่จอดรถที่ถูกต้องตามกฎหมายควรก่อสร้างภายในพื้นที่รั้วบ้านที่เป็นกรรมสิทธิ์ของตนเอง

การจอดรถหน้าบ้านคนอื่น ผิดกฎหมายหรือไม่และมีผลอย่างไร?

ในกรณีที่จอดรถขวางทางเข้าออกหน้าบ้านของผู้อื่น ถือว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายอย่างชัดเจน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 397 วรรคสอง ซึ่งระบุว่าผู้ใดกระทำการอันเป็นการเดือดร้อนรำคาญแก่ผู้อื่นในที่สาธารณะหรือในที่ส่วนบุคคลโดยไม่มีเหตุอันควร ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ เจ้าของบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนสามารถแจ้งความเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายกับเจ้าของรถได้ทันที

วิธีหลีกเลี่ยงข้อพิพาทเมื่อจำเป็นต้องจอดหน้าบ้านผู้อื่น

หากมีความจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องจอดรถในพื้นที่ที่ไม่ใช่ของตนเอง และอาจใกล้เคียงกับหน้าบ้านผู้อื่น เพื่อลดโอกาสเกิดข้อพิพาท ควรปฏิบัติดังนี้:

ทิ้งเบอร์โทรศัพท์ที่สามารถติดต่อได้ไว้ที่หน้ารถอย่างชัดเจน
หากจอดขวางทางเข้า-ออก หรือจอดซ้อนคัน ต้องมั่นใจว่ารถอยู่ในสถานะที่สามารถเคลื่อนย้ายได้ง่าย (เช่น เข้าเกียร์ว่าง ไม่ดึงเบรกมือ หากพื้นที่เอื้ออำนวยและปลอดภัย)
หากไม่จำเป็นจริง ๆ ควรหลีกเลี่ยงการจอดหน้าบ้านผู้อื่น และเลือกจอดในพื้นที่ที่จัดไว้สำหรับการจอดรถโดยเฉพาะ

ภาพรถยนต์สีขาวจอดขวางทางเข้าออกหน้าบ้าน แสดงถึงปัญหาข้อพิพาทเรื่องที่จอดรถ

พื้นที่ห้ามจอดตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก มีที่ใดบ้าง?

นอกจากการห้ามจอดรถกีดขวางทางเข้าออก ตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 55 ยังกำหนดพื้นที่อื่น ๆ ที่ห้ามหยุดหรือจอดรถไว้อย่างชัดเจน เช่น:

ในช่องเดินรถ (ยกเว้นชิดขอบทางด้านซ้ายเมื่อไม่มีช่องเดินรถประจำทาง)
บนทางเท้า
บนสะพานหรือภายในอุโมงค์
ในทางร่วมทางแยก
ในเขตที่มีป้ายจราจรห้ามหยุดหรือจอดรถ
ในเขตปลอดภัย หรือบริเวณเส้นทึบ/ก้างปลา
ในลักษณะที่กีดขวางการจราจร

จอดในที่ห้ามจอดแล้วโดนชน ใครต้องรับผิดชอบ?

ในกรณีที่รถถูกเฉี่ยวชนขณะที่จอดอยู่ในพื้นที่ห้ามจอด หรือจอดในลักษณะที่ผิดกฎหมาย เช่น จอดขวางทางเข้าออก แม้ว่าการจอดรถจะผิดกฎหมาย แต่ตามหลักแล้ว รถคันที่ขับมาชนย่อมมีความผิดฐานขับรถโดยประมาท ทำให้เกิดความเสียหาย อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจอาจพิจารณาถึงลักษณะการจอดรถด้วยว่า เป็นการจอดในจุดที่เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุอย่างมากหรือไม่ เช่น จอดในที่อับสายตา หรือกีดขวางการจราจรจนเป็นเหตุให้เกิดอุบัติเหตุ ซึ่งในกรณีนี้ ผู้ที่จอดรถผิดกฎหมายอาจเข้าข่ายมีส่วนร่วมในความประมาท หรือที่เรียกว่า ประมาทร่วม ซึ่งจะส่งผลต่อการพิจารณาความรับผิดชอบในทางแพ่ง

ประกันรถยนต์คุ้มครองหรือไม่ หากรถโดนชนขณะจอดผิดกฎหมาย?

หลายคนกังวลว่าหากจอดรถในที่ห้ามจอดแล้วโดนชน ประกันรถยนต์จะให้ความคุ้มครองหรือไม่ คำตอบคือ โดยทั่วไปแล้ว หากรถคู่กรณีมี ประกันภาคสมัครใจ บริษัทประกันของคู่กรณีจะยังคงให้ความคุ้มครองตามเงื่อนไขกรมธรรม์ แม้ว่ารถของคุณจะจอดผิดกฎหมายก็ตาม

แต่หากเป็นกรณี ชนแล้วหนี ไม่สามารถระบุคู่กรณีได้ หากรถของคุณทำ ประกันชั้น 1 ไว้ กรมธรรม์จะยังคงคุ้มครองความเสียหายที่เกิดขึ้น ในขณะที่ประกันชั้นอื่น ๆ อาจไม่คุ้มครอง ทำให้คุณต้องรับผิดชอบค่าซ่อมรถด้วยตนเอง อย่างไรก็ตาม การจอดรถในที่ห้ามจอดเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายและมีโทษปรับ ซึ่งล่าสุดมีการเพิ่มอัตราโทษสูงสุดไม่เกิน 2,000 บาท เนื่องจากเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนได้

การสร้างที่จอดรถในบ้านให้ถูกกฎหมาย ทำอย่างไร?

ทางออกที่ดีที่สุดในการหลีกเลี่ยงปัญหาการจอดรถคือ การสร้างที่จอดรถที่ถูกต้องภายในบริเวณบ้านของตนเอง การก่อสร้างหรือต่อเติมที่จอดรถมีข้อกำหนดตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร ซึ่งบางกรณีต้องยื่นขออนุญาตจากหน่วยงานราชการ เช่น การต่อเติมที่มีขนาดพื้นที่ตั้งแต่ 5 ตารางเมตรขึ้นไป

ข้อกำหนดระยะร่นและขนาดที่จอดรถมาตรฐาน

เพื่อให้การก่อสร้างหรือต่อเติมที่จอดรถเป็นไปอย่างถูกต้องตามกฎหมายและไม่สร้างความเดือดร้อนแก่เพื่อนบ้าน ควรปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านระยะร่นจากแนวเขตที่ดิน และขนาดมาตรฐานที่จอดรถ ดังนี้

ระยะร่น: ผนังที่มีช่องเปิด (ประตู, หน้าต่าง) สูงไม่เกิน 9 เมตร ต้องห่างจากเขตที่ดินไม่น้อยกว่า 2 เมตร ส่วนผนังที่สูงเกิน 9 เมตร ให้ห่าง 3 เมตร สำหรับผนังทึบที่ไม่มีช่องเปิด ต้องห่างไม่น้อยกว่า 0.50 เมตร (ยกเว้นได้รับความยินยอมจากเจ้าของที่ดินข้างเคียงเป็นลายลักษณ์อักษร) ชายคาและกันสาดต้องห่างจากแนวเขตที่ดินไม่น้อยกว่า 0.50 เมตร
ขนาดมาตรฐาน: พื้นที่จอดรถยนต์ 1 คัน ควรมีขนาดไม่ต่ำกว่า 2.40 x 5.00 เมตร และควรมีพื้นที่ว่างด้านข้างและด้านหน้าเพื่อความสะดวกในการเข้า-ออก อย่างน้อย 0.70 เมตร และ 0.40 เมตร ตามลำดับ ความสูงของเพดานที่จอดรถควรสูงไม่น้อยกว่า 2.50 เมตร ส่วนทางลาดขึ้นที่จอดรถ หากมีระดับพื้นต่างจากถนน ควรมีความลาดชันไม่เกิน 1:8

การทำความเข้าใจเกี่ยวกับกฎหมายจราจรและกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับพื้นที่และการก่อสร้างที่จอดรถ จะช่วยให้เราสามารถหลีกเลี่ยงปัญหาข้อพิพาทกับเพื่อนบ้าน หรือการถูกปรับจากหน่วยงานราชการได้ การจอดรถในพื้นที่ที่จัดเตรียมไว้ให้ หรือการขออนุญาตจากเจ้าของพื้นที่เมื่อจำเป็นต้องจอดชั่วคราว เป็นวิธีปฏิบัติที่แสดงถึงความรับผิดชอบต่อสังคม

เพื่อความอุ่นใจเมื่อต้องเผชิญกับเหตุการณ์ไม่คาดฝันบนท้องถนน รวมถึงอุบัติเหตุจากการเฉี่ยวชนในรูปแบบต่างๆ การมีประกันรถยนต์ที่ให้ความคุ้มครองครอบคลุมเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นได้ ปรับแผนประกันที่รู้ใจให้ตรงใจคุณ พร้อมรับส่วนลดสูงสุด 30% เพื่อความคุ้มครองที่คุณวางใจได้ในทุกการเดินทาง

ประกันรถที่รู้ใจ ให้คุณเลือกความคุ้มครองที่เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์การขับขี่และงบประมาณ มั่นใจได้เมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝัน

Previous Post